สถานการณ์ "สร้างวีรบุรุษ"หลายคนที่ "อยากเป็นวีรบุรุษ"
ก็เลย "สร้างสถานการณ์"
ในมิติทางจิตใจ
กลเกมฮีโร่ และ การตกเป็นเหยื่อ
เกิดขึ้นได้อย่างไร?
---------------------------------
1. มิติทางใจในผู้ที่ต้องการเป็นวีรบุรุษ หรือ ฮีโร่
✍️ต้องการมีภาพลักษณ์ฮีโร่
ภาพลักษณ์ขวัญใจ
อยากอยู่ในบทบาท
"ผู้ช่วยชีวิต” หรือ “ผู้กอบกู้” สถานการณ์
จึงสร้างสถานการณ์
หรือ ขยายสถานการณ์เล็กๆ ให้มีปัญหาใหญ่ๆ
เพื่อให้ตัวเองได้เป็น "ฮีโร่ผู้กอบกู้"
เพื่อสร้างคุณค่าในตัวเอง ในสายตาผู้คน
หรือ
เพื่อสร้างผลประโยชน์ในเส้นทางชีวิต
---------------------------
✍️ต้องการเป็นคนสำคัญ
และ มีคุณค่าในสายตาผู้คน
มาจากใจที่โหยหาการยอมรับจากผู้คน
ต้องการเป็นที่รัก เป็นอย่างมากมาย
เพราะเอาคุณค่าของตนเอง (self-esteem)
ไปผูกติดกับการเป็นฮีโร่
-------------------------------
✍️ เพื่อต้องการการยกย่อง คำสรรเสริญ ชื่นชม
ว่าตนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
จึงมีพฤติกรรมสร้างสถานการณ์ หรือ จัดฉาก
เพื่อให้ตัวเองได้เป็นคนกู้วิกฤติ
เพื่อสร้าง story ว่า
ตนเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง
ชนิดที่คน/สังคมจะขาดไม่ได้
-----------------
✍️ เมื่อได้เป็นฮีโร่แล้วหยุดยาก
เมื่อได้เป็นฮีโร่
หลายคนจะหยุดเป็นไม่ได้
เพราะ ผลทางใจ และ ผลประโยชน์ในชีวิต
ที่ให้มูลค่ามหาศาล
หลายครั้งการเป็นฮีโร่
ทำให้ได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง
และ การไม่ได้อยู่ในบทบาทฮีโร่
หลายคนจะรู้สึกเหมือนตกสวรรค์ลงมาอย่างแรง
ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ใจรู้สึกทรมาน รับได้ยาก
ยิ่งในคนที่ยึดติดกับคุณค่าจากสิ่งภายนอกมากๆ
หลายคนจึงสร้างสถานการณ์...
เพื่อเป็นฮีโร่ไม่สิ้นสุด
จนกว่าจะถูกจับทางได้
หรือ รูปแบบเดิมไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป
------------------------
2. มิติทางใจ ภาวะตกเป็นเหยื่อกลเกมฮีโร่
(ถูก manipulate)
✍️ใจโหยหา ฮีโร่
ธรรมชาติหนึ่งของมนุษย์ต้องการที่ยึดเหนี่ยว
ซึ่งหลายคนจะโหยหาที่ยึดเหนี่ยว
ในรูปแบบ "ฮีโร่"
เมื่อใครที่มีภาพตรงกับที่ใจฝันไว้
ใจจะไปยึดถือเขาเป็นฮีโร่ ทันที
ด้วยใจที่โหยหา...อย่างมากมาย
เลยทำให้ไม่ทันได้พิจารณาให้ถี่ถ้วน
ก่อนทุ่มเทใจ
-------------------------------
✍️ขาดการตระหนัก
ขาดการเท่าทันกลเกมฮีโร่
เช่น
การขาดข้อมูลส่วนความเป็นจริง
การขาดทักษะการไตร่ตรอง
การขาดทักษะ Critical Thinking
(การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ)
-----------------------------
✍️ถูกกระตุ้น ถูกเร้าด้วยการสร้างอารมณ์ร่วม หรือ ดราม่าแรงๆ
ผู้สร้างสถานการณ์มักกระตุ้นให้ผู้คน
เกิดความรู้สึกร่วมมากๆ
เช่น ความรู้สึกกลัว
ความรู้สึกโกรธแค้น
ความรู้สึกเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม
ความรู้สึกสงสาร
ความรู้สึกผิด
เพื่อดึงผู้คนรู้สึกอินมากๆ
จนเกิดภาวะเชื่อง่าย
จนคล้อยตามสิ่งที่เขาชักจูงได้ง่ายมากกว่าปกติ
ความรู้สึกอินมากๆ
ช่วงเวลาที่อารมณ์ร่วมเยอะๆ
จะกระตุ้นให้เกิดภาวะขาดสติ
ขาดการใช้ความคิดที่สมเหตุสมผล
------------------------------------
✍️การได้รับข่าวสารทางเดียว
คือ ได้รับการบอกเล่าเหตุการณ์ในมุมที่
ทำให้เขาดูเป็นคนดี (มากๆ)
เป็นคนน่าเห็นใจ
เป็นคนน่าเชื่อถือ
เป็นคนเสียสละ
เป็นคนมีความสามารถมาก
เป็นการสร้างตัวตน
จนทำให้ เกิดปรากฏการณ์
เขา คือ "ความหวังเดียวของหมู่บ้าน"
------------------------------
✍️การใช้จิตวิทยามวลชนเข้ามาโน้มน้าว
การจัดหาผู้คน หรือที่เรียกว่าหน้าม้ามาสนับสนุน
เพื่อให้สถานการณ์ดูสมจริง
เพิ่มความน่าเชื่อถือ (มากๆ)
เพราะ มนุษย์มักจะให้เครดิต
หรือ คล้อยตามกับเสียงส่วนมากพาไป
-------------------------------
#ตัวอย่าง
เอ ทำให้“ปัญหาเล็กๆ” เกิดความบานปลาย แล้วแสดงบทบาทฮีโร่
ว่า "ตนเป็นผู้แก้ปัญหาที่กำลังบานปลาย"
เป็นผู้กอบกู้วิกฤติ ที่น่าชื่นชม
บี จัดฉากช่วยเหลือผู้คน หรือ ทำความดีต่างๆ ต่อหน้ากล้องหรือสังคม
เพื่อให้สังคมเห็นว่าตน คือ คนดี เป็นผู้เสียสละช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน
เป็นพ่อพระ แม่พระ ที่น่ายกย่อง
ซี แอบจุดชนวนสร้างความขัดแย้ง ต่างๆ นานา และ เข้ามาสวมบทฮีโร่
ว่าตนเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ย” ทำให้สันติภาพเกิดขึ้นได้
เป็นต้น
----------------------------------
<3 แนวทางลดภาวะการตกเป็นเหยื่อกลเกมฮีโร่
(หรือ การถูก Manipulate)
<3 1. ฟังหู-ไว้หู อย่าเพิ่งรีบปักใจ
ควรให้เวลาตนเองกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงในหลายๆด้าน
--------------------------
<3 2. หาแหล่งข้อมูล และ รับฟังมุมมองจากหลายๆ ฝ่าย
---------------------------
<3 3. ฝึกการคิดแบบ Critical Thinking
(การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ)
คือ การคิด วิเคราะห์รอบด้าน
ไม่รีบด่วนสรุป
การแยกแยะข้อมูลต่างๆ ที่มี
ข้อมลใดที่น่าเชื่อถือ
ข้อมูลใดทีมีอคติ
ข้อมูลใดที่เป็นสมมติฐาน
เป็นต้น
------------------------------
<3 4. สังเกต Pattern "ฮีโร่"
มักมีประวัติฮีโร่ในสถานการณ์คล้ายๆ เดิม หรือ แพทเทิร์นเดิมๆ ซ้ำๆ หรือไม่
---------------------------------
<3 5. "ตั้งสติ" ก่อนจะอิน
และ เพื่อเท่าทันอคติในใจ
(ทั้งอคติจากความชอบ หรือ อคติจากความชัง)
ในสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์แรงๆ ก
ระตุ้นดราม่าแรงๆ
ยิ่งต้องตั้งสติ
ในการใส่ใจเรื่องราว...
การเรียกสติ ให้ใจมีความเย็น ความสงบ
จะช่วยให้สมองส่วนเหตุผลทำงานได้ดีขึ้น
เพราะ ตอนที่เหตุการณ์กระตุ้นอารมณ์เยอะๆ
สมองส่วนอารมณ์ที่ถูกเร้ามากๆ
จะทำให้สมองส่วนเหตุผลทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก
จึงทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายกว่าปกติ
การตั้งสติ การเรียกความสงบทางใจสักครู่
เช่น หายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ ให้ใจสงบขึ้น
การออกมาเดินเล่นรับอากาศบริสุทธิ์ ให้ใจผ่อนคลาย
การออกจากสถานการณ์นั้นสักครู่ เพื่อลดสิ่งเร้าลง
การลุกออกมาดื่มน้ำให้ ใจสบายๆ
เป็นต้น
เมื่อสมองส่วนอารมณ์ค่อยๆ สงบขึ้น
จะช่วยให้ความสามารถของสมองส่วนเหตุผลกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
ความเฉลียวฉลาดที่มีอยู่เป็นทุนเดิม
จะกลับมาทำงานได้ดี
จะช่วยลดภาวะการตกเป็นเหยื่อ จากผู้สร้างสถานการณ์ฮีโร่ ได้
------------------------------
:) เรียนรู้..เพื่อเข่้าใจ :)
บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข
🎧 ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้
สามารถรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/3tj2bpeayLQ