Spoiler Alert !!! ค่ะ
(ใครที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์ เนื้อหาบทความอาจเปิดเผยบางส่วนของภาพยนตร์ค่ะ)
ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์อนิเมชั่น เรื่อง Zootopia (นครสัตว์มหาสนุก)ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูดีเพราะ มีทั้งความสนุก ภาพสวย และ ให้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต
ในเรื่องนี้ มีแง่มุมข้อคิดดีๆ ทางจิตวิทยาหลายเรื่อง ซึ่งมีหลายบทความได้พูดถึงกันไปบ้างแล้ว เช่น
การสู้เพื่อฝัน การเห็นคุณค่าในกันและกัน หรือการสร้างโลกที่สวยงามด้วยตัวเราเอง เป็นต้น
ส่วนในบทความนี้ จะขอพูดถึงประเด็นทางด้านจิตใจ ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งคือ "แผลใจในวัยเด็ก"
โดยตัวละคร นิค ไวด์ (Nick Wilde) ตัวละคนเด่นอีกตัวหนึ่ง นอกจากนางเอก จูดี้ ฮอปปส์ (Judy Hopps) กระต่ายนักสู้เพื่อฝันแล้ว นิค ไวด์เป็นสุนัขจิ้งจอกรูปร่างผอม ขนสีแดง ในตาสีเขียวมีอาชีพ เป็นมิจฉาชีพ นิสัยที่คนทั่วไปเห็นคือเจ้าเล่ห์พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคม Zootopia มักมอง เหล่าสุนัขจิ้งจอกไว้แบบนั้้น
ในวัยเด็ก นิค ไวด์ เป็นสุนัขจิ้งจอก ที่มีจิตใจ ใสซื่อบริสุทธ์และ มีความฝัน...ที่จะเป็นเด็กดี ทำระโยชน์เพื่อสัตว์อื่น เขาจึงไปสมัครเป็นลูกเสือ (boy scout) เพื่อที่จะได้ทำความดี ได้ช่วยเหลือสัตว์อื่นและได้ทำพิธีกล่าวคำปฏิญาณสาบานตน ที่จะทำสิ่งนี้ด้วยใจที่ใสซื่่อ บริสุทธิ์ ภูมิใจ และมุ่งมั่นอย่างมาก
แต่แล้วสิ่งที่เด็กน้อยนิค เจอ กับ ทำให้เขาช็อคและกลายเป็นบาดแผลในใจที่แสนเจ็บปวดไปตลอดชีวิต
เนื่องจากเพื่อนๆเหล่าลูกเสือรังเกียจเขา ทำร้ายเขา เหยียดหยามเขาอย่างทีสุด ไม่มีใครยอมรับเขาเลย
และร่วมกันทำร้ายเขา และไล่เขาออกจากกลุ่มลูกเสือด้วยความเชื่อที่ว่าสุนัขจิ้งจอกไม่มีทางซื่อสัตย์และทำสิ่งที่มีเกียรติเช่นเป็นลูกเสือได้
จึงร่วมกันทำร้ายร่างกาย และ จิตใจของเด็กน้อย นิค ไวด์ อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส โดยเฉพาะด้านจิตใจ
ฉากนี้ที่เกิดขึ้นในชีวิตของ เด็กน้อย นิค ไวด์
กลายเป็นบาดแผลในใจ อย่างที่ไม่มีวันที่จะเยียวยาได้อีกเลย
เพราะมันทำลายทั้งความภูมิใจ ทำลายทั้งความฝัน ที่จะเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ซื่อสัตย์ จิตใจดี และช่วยเหลือสัตว์อื่น รวมถึงมันยังทำลายความรู้สึกดีๆ ความรู้สึกมีคุณค่า ในตัวเขาจนหมดสิ้น
หลังจากนั้น เขาก็เติบโตขึ้นมาเป็น นิค ไวด์ สุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ตามที่สังคมพยายามยัดเยียดให้เขาเป็น เพราะเขาสิ้นหวังเกินกว่าที่จะต้านคำพิพากษาของสังคมที่พยายามยัดเยียด เหยียดหยามให้เขาเป็นได้แค่ จอมเจ้าเล่ห์
จากฉากนี้ในภาพยนตร์ จะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของนิคน้อย นำมาซึ่ง บาดแผลในใจ อันใหญ่มากและเปลี่ยนเขาไป(เกือบ)ชั่วชีวิต
หลายคนในชีวิตก็เช่นกัน หลายคนมีบาดแผลในวัยเด็ก เป็นแผลใจที่แม้ว่ากาลเวลาผ่านไป แผลใจนั้นก็ยังมีอิทธิพลกำหนดเส้นทางชีวิตให้เดินโดยรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง เช่นบางคนเคยถูกเพื่อนล้อเลียน เรื่อง ความอ้วนโตขึ้นกลายเป็นคนกลัวอ้วนมากจนต้องคอยคุมอาหารกลัวอ้วนจนกลายเป็นโรคคลั่งผอม ที่อดอาหารจนร่างกายทรุดโทรมและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
หรือถูกเพื่อนล้อเลียนเรืองหน้าตา ทำให้โตขึ้นมากลายเป็นคนขาดความมั่นใจเรืองหน้าตา คอยวิตกจริตกับหน้าตาของตนเองมากจนขาดความสุข
หรือบางคนมีบาดแผนในใจเป็นภาพครอบครัวในวัยเด็ก ที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ด้วยเรื่องการเลี้ยงลูก สุดท้ายหย่าร้างกัน แล้วฝังใจว่าตนคือสาเหตุ จากนั้นก็เฝ้าโทษตนเองมาตลอดว่าเป็นเพราะตน พ่อแม่จึงหย่าร้างกัน เลยไม่เคยยอมให้ตนเองใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะต้องการลงโทษตนเอง จากความรู้สึกผิดนั้น
หรือเด็กสาวบางคนมีความทรงจำที่ไม่ดี เกี่ยวกับ ผู้ชาย เช่นภาพพ่อทำร้่ายแม่ หรือตนเองเคยถูกผู้ชายทำร้ายมา ทำให้การใช้ชีวิตในตอนโตด้วยความเกลียดและกลัวผู้ชาย จนทำให้ส่งผลต่อการเข้าสังคม การเรียน การทำงาน
หรือบางคนมีความทรงจำที่ไม่ดี เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนในวัยเด็ก ประสบเหตุการณ์ว่า เพื่อนไม่ยอมรับ ไม่เล่นด้วย เพื่อนๆไม่อยากให้เข้ากลุ่ม พอโตขึ้น มักจะไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักกับใคร มักตราหน้าตนเองว่าเป็นคนที่ไม่มีใครอยากคบและ เศร้า เหงา และ อ่อนไหวง่าย กับท่าทีสีหน้าของเพื่อน เป็นต้น
สาเหตุที่แผลใจในวัยเด็กส่งผลกระทบกับชีวิตได้อย่างไร?
สิ่งเหล่านี้เกิดจาก เรานำความทรงจำในอดีต (ซึ่งจริงๆ จบไปแล้ว) มาหลอกหลอนตนเองในปัจจุบัน (ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใหม่) โดยเป็นกระบวนการดังนี้
ความทรงจำในอดีต: บาดแผลในวัยเด็ก + ความคิดปรุงแต่งต่อเติมเหตุการณ์ปัจจุบัน
--> นำมาสู่ความเชื่อเดิมๆว่าเราแย่ (ตามบาดแผลเดิมในวัยเด็ก)
--> นำมาสู่ความทุกข์กับเรื่องเดิมๆ และ มีวิถีชีวิตที่ไม่เหมาะสมแบบเดิมๆ
ซึ่งจากภาพยนตร์ จะเห็นว่า ในที่สุด เมื่อ นิค โตขึ้น สังคมรอบตัวก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่ใช่กลุ่มเพื่อนเดิมๆ ที่ทำร้ายเขาแล้ว
คนในสังคมปัจจุบัน (ปัจจุบัน) ก็พร้อมจะเคารพนับถือเขา (ซึ่งต่างจากสังคมที่เขาเจอในวัยเด็ก)
ถ้าเขาพิสูจน์ตนเองได้ว่าเขาคือสุนัขจิ้งจอกที่ซื่อสัตย์ มีจิตใจทีดี และพร้อมจะทำสิ่งดีๆต่อสังคม
แต่ถ้าเขาไม่สามารถก้าวข้ามความทรงจำเดิม + ความคิดปรุงแต่งต่อเติม เขาก็จะวนอยู่วงจรเดิม ทุกข์เหมือนเดิม ทั้งที่เหตุการณ์นั้นที่เคยทำร้ายเขาจบไปนานแล้ว และคนที่เคยทำร้ายเขา ตอนนี้ก็ไปแล้ว
แต่เป็นใจเขาเอง ความคิดของเขาเองที่เฝ้าพิพากษาตนเอง ซ้ำๆ
เป็นใจเขาเองที่ทำให้เขา เหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นแผลเก่า แต่เมื่อเขามีสติและก้าวออกจาก โลกความทรงจำ โดยไม่ไปปรุงแต่งต่อ แล้วเปลี่ยนมามองโลกปัจจุบันอย่างที่มันเป็นจริง ด้วยใจที่เป็นกลาง เขาจะค้นพบโลกใหม่ ที่เป็นจริง ที่เป็นโลกที่รอให้เขาค้นพบสิ่งใหม่ๆอยู่
เราควรดูแลจิตใจอย่างไร?
เราคงไม่สามารถกลับแก้ไขอดีตได้ แผลใจที่เกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือเราจะดูแลใจอย่างไร ที่ไม่ให้แผลใจในวัยเด็กยังส่งอิทธิพลกำหนดชีวิตเราไปจนผิดทาง
ดังนั้น การรู้ทัน ความทรงจำเก่า และ ความคิดปรุงแต่งต่อเติมในปัจจุบัน จึงเป็นก้าวสำคัญให้เราก้าวพ้น ออกจากโลกเก่าและออกสู่โลกใหม่ ที่มีอะไร ดีๆ รอเราอยู่อีกมากมายค่ะ
เครดิตภาพนะคะ :
http://www.forbes.com/sites/