Toxic communication patterns อันแรก คือ
1. ด่วนสรุป (Jumping to Conclusions)
การด่วนสรุป เป็นการสื่อสารที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี
เพราะ เหมือนไม่ได้รับฟัง และ มั่นใจไปแบบผิดๆ
จึงสร้างความเข้าใจที่บิดเบือนจากความจริงไปได้มากๆ
✍️ที่มาของการด่วนสรุปเกิดขึ้นจาก 2 ลักษณะดังนี้
1.1 นักอ่านใจ
เชื่อว่าตนเองอ่านใจอีกคนได้ (Mind-reading)
คือ การเชื่อว่าตนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เชื่อว่าตนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการอะไร เชื่อว่าตนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอะไร เชื่อว่าตนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร เป็นต้น
การเชื่อว่าตนอ่านใจเขาได้ ทำให้เกิดภาวะทึกทัก..ไปเอง
ซึ่งสร้างความอึดอัดขัดเคืองใจกับผู้ที่กำลังถูกอ่านใจ
และ คนที่เชื่อว่าตนอ่านใจคนอื่นได้ มักมีลักษณะเชื่อมั่นในตนเองว่าตนเองเป็นผู้รู้ใจคน
จึงไม่ค่อยได้ถามเขาจริงๆว่า จริงๆแล้ว เขาคิดอย่างไร เขารู้สึกอย่างไร เขาต้องการอะไร
จึงขาดโอกาสที่จะรู้จักความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย
เพราะ เชื่อสิ่งที่ตนเองทึกทักอย่างหมดใจ และ มีความมั่นอกมั่นใจว่ารู้จริง
จึงมักเกิดปัญหาความสัมพันธ์ที่ทั้งชวนให้อึดอัดและน่ารำคาญได้ทั้งในระยะสั้น และ ในระยะยาวได้
1.2 นักทำนาย
เชื่อว่าตนคาดการณ์ได้แม่นยำ (Fortune Telling)
คือ การเชื่อว่าตนคาดการณ์ได้แม่นยำ ทำนายสิ่งต่างๆที่จะเกิดได้อย่างถูกต้อง
ความมั่นใจในการคาดการณ์นี้ นำไปสู่การปักใจ
เช่น คาดการณ์ไปในทางด้านลบ
แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังคาดการณ์ แต่ดันเชื่อว่าสิ่งที่ตนคาดการณ์คือเรื่องจริงแน่ๆ
ทำให้เกิดอาการตื่นตระหนก วิตกกังวลเกินเหตุ หรือ มองคนในแง่ร้าย (ตามการมโน) ไป
การสื่อสารที่ออกมา จะทำให้อีกฝ่ายจะรู้สึกเหมือนถูกจับผิด ถูกคาดคั้น จึงเกิดปัญหาการสื่อสารและเกิดปัญหาความสัมพันธ์ต่อมาได้ เป็นต้น
หรือ คาดการณ์ไปด้านบวก
แล้วเชื่อว่าที่ตนคาดการณ์ถูกต้อง เหมือนวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ ทำให้ขาดการรับรู้ความจริงที่กำลังเกิดขึ้น
ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญ หรือ เหนื่อยหน่าย เหมือนคุยกับคนที่ไม่รับรู้ความจริง เหมือนคุยกับคนที่คุยไม่รู้เรื่องได้
#วิธีลดอาการเป็นพิษในข้อนี้
วิธีแก้ไขทั้ง 2 ลักษณะคือ
1. ฝึกฟังให้จบ (เน้นฟังให้จบ เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก)
หลายครั้งคนที่มีลักษณะนี้ มักจะฟังไม่จบ
เพราะ เชื่อเสียงในหัวตนเอง
มากกว่าเสียงที่ผู้พูดกำลังบอกกับเรา
2. ฝึกฟังอย่างใส่ใจ การฟังอย่างใส่ใจ
คือ การฟังเพื่อให้เข้าใจว่าผู้พูดกำลังรู้สึกอะไร เขากำลังต้องการสื่ออะไร เขากำลังคิดอะไร
การฟังอย่างใส่ใจ
คือ การฟังเพื่อรับรู้ใจเขา ในสิ่งที่เขากำลังสื่อออกมา
ไม่ใช่ มาจากหัวสมองเราที่กำลังคิดขึ้นมา
3. เท่าทันงานมโนของตนเองทั้งการชอบอ่านใจ และ การชอบทำนาย
อย่าให้งานมโนมาบดบังความเข้าใจคนที่เรากำลังสนทนา
4. ใช้การถามเพิ่มเติม แทนการทึกทัก
การถาม เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจ
5. อย่าเอาตัวตนไปผูกกับการอ่านใจคนเก่ง หรือ คาดการณ์แม่นยำ
หลายคนรู้สึกภูมิใจ หลงตัวว่า
ตนเองอ่านใจคนเก่ง ทำนายแม่นยำ เหมือนเครื่อง X-Ray ใจ
ตระหนักไว้ว่า
"ความมั่นใจตรงนี้ ทำลายมิตรภาพมานักต่อนักแล้ว"
#อย่าหาทำ
---------------------------------------
หมายเหตุ :
1 รูป 1 ลักษณะค่ะ
จะค่อยๆ ทะยอยลงค่ะ
บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
---------------------------------------
:) ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ สามารถรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://youtu.be/gM8o5RZIi2s?si=AWEZLUcYZRahMR5k
------------------------------------------
บทความอ้างอิงจาก : https://www.holisticwellnesspractice.com/hwp-blog/2020/06/11/toxic-communication-patterns-explained