วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568

“เมื่อรู้สึกเหงา" ควรดูแลจิตใจอย่างไร? กับ 7 แนวทางที่ดีต่อใจ โดย พญ. ทานตะวัน

 



"เมื่อรู้สึกเหงา"

ควรดูแลจิตใจอย่างไร?

ความรู้สึกเหงาเป็นสัญญาณที่บอกว่า
ใจกำลังต้องการ
“ความเชื่อมโยง” (connection)

ไม่ว่า
กับผู้คน
ธรรมชาติ
และ
ที่สุดแล้ว คือ กับตัวเราเอง

การดูแลใจที่เหมาะสม
เมื่อมีความเหงาจึงไม่ใช่
การ "ไล่ความรู้สึกเหงาออกไป”

แต่คือ
การดูแลใจด้วยความอบอุ่น
และ
การเติมความรู้สึกเชื่อมโยง (connection)
กับตัวเรา และ สิ่งรอบตัว
ขึ้นในใจ

-----------------------------------------
"7 แนวทางดูแลใจเมื่อใจกำลังรู้สึกเหงา"
เพื่อเติมเต็มความอบอุ่น
และ ความรู้สึกเชื่อมโยงให้กับใจ

:) 1. "รับรู้" ความรู้สึกเหงา

การเปิดใจรับรู้ว่า
ความรู้สึกนี้ กำลังเกิดขึ้นที่ใจ
จะช่วยให้ใจเกิดความอบอุ่น จากการชื่อมโยงกับใจตนเองมากขึ้น

เช่น
การพูดกับตัวเองอย่างอ่อนโยนว่า
"ฉันรับรู้ว่า ฉันกำลังรู้สึกเหงา"
“ตอนนี้ใจกำลังรู้สึกเหงา"
"ตอนนี้ใจกำลังรู้สึกโดดเดี่ยว"
ฯลฯ

-----------------------
:) 2. "ยอมรับ" ความรู้สึกเหงา

การเปิดใจยอมรับว่ามีความรู้สึกนี้เกิดขึ้น
โดยไม่ต่อต้าน ไม่ผลักไส

การยอมรับจะช่วยลดภาวะต่อต้าน ความรู้สึกนี้ ในใจ
จะช่วยทำให้ความรู้สึกเหงาที่กำลังจู่โจม ทิ่มแทง
เกิดความนุ่มนวลขึ้น

บรรยากาศภายในจิตใจดีขึ้นอย่างมาก
และ เพิ่มความรู้สึกอบอุ่ม และ เชื่อมโยงกับใจตนเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เช่น
การพูดกับตนเองว่า
"ใจฉันไม่ได้ผิดอะไร ที่จะรู้สึกเหงา"
"มันไม่ผิดอะไรเลย ที่จะรู้สึกแบบนี้”
"ฉันกำลังรู้สึกเหงา และ มันก็โอเคนะ ที่กำลังรู้สึกแบบนี้"
ฯลฯ

--------------------------
:) 3. การเชื่อมโยงกับตัวเอง

ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงที่เติมเต็มใจได้มากที่สุด
ที่หลายคนมักมองข้ามไป
เพราะ ธรรมชาติมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม
จะให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกับคนอื่่น

หลายคนเลยไปใส่ใจการเชื่อมโยงกับคนอื่นแบบ 100%

จนหลงลืมการเชื่อมโยงกับตัวเอง
ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงที่สำคัญของใจเช่นกันไป

และ มีความสำคัญไม่น้อยกว่า การเชื่อมโยงกับคนอื่น
(และ จริงสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำ ในระดับการเติมอาหารใจในระดับลึกๆ)

การเชื่อมโยงกับตัวเอง
เช่น
- การ self-Talk การพูดคุยกับตนเอง รับฟังสารทุกข์สุขดิบในใจตนเอง
- การเขียน journal เล่าความรู้สึก ความต้องการในที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้
- การทำกิจกรรมที่ดีต่อใจ เช่น กิจกรรมที่ทำให้ใจมีความสุข
กิจกรรมทีมอบความอบอุ่น ให้ใจ
เช่น ฟังเพลงที่ชอบ การอ่านหนังสือ การทำงานศิลปะ การนั่งเล่นจิบเครื่องดื่ม การดูซีรี่ส์ การเดินเล่น การออกกำลังกายในแบบที่ชอบ เป็นต้น
- การฝึกรับรู้ การหายใจช้าๆลึกๆ สบายๆ
- การวางมือบนหน้าอก
เพื่อรับรู้จังหวะการเต้นของหัวใจ
และ ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น
- การกอดตัวเองเบาๆ เช่น ท่าผีเสื้อ(ฺButterfly hug) พร้อมกับส่งความรู้สึกอ่อนโยน และ เป็นมิตรให้ตนเอง
เป็นต้น
ฯลฯ

---------------------------
:) 4. การเชื่อมโยงกับคนอื่น

การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยเติมเต็มใจได้

เช่น การโทรหาคนที่รู้สึกวางใจ
การแบ่งปันเรื่องราวคนที่คุยแล้วรู้สึกสบายใจ
การส่งข้อความถึงคนที่รู้สึกสบายใจที่จะสื่อสาร
การนัดพบเพื่อน หรือ ครอบครัว
การเดินเล่นในหมุ่บ้าน ทักทายกับคนอื่นๆ ที่พอพูดคุยกันได้
การทักทายคนในร้านค้าที่เข้าไปซื้อของ
เป็นต้น

เหล่านี้ คือ การเพิ่มความรู้สึกเชื่อมโยงขึ้นในใจ
การพูดคุย การเชื่อมโยงกับคนอื่น
ที่เหมาะสม คือ การไม่คาดหวังว่าคนอื่นจะตอบสนองเราทันที
หรือ ตอบสนองตามที่เราต้องการ
เพราะ จะยิ่งเพิ่มความรู้สึกเหงา

แต่เป็นการสร้างพื้นที่ให้ตนเอง
ได้มีช่วงเวลาที่ใจได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ซึ่งใจความสำคัญอยู่ตรงนี้

แต่ถ้า ใจเผลอคาดหวัง การตอบสนองที่ได้ดั่งใจ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ เป็นธรรมชาติของใจ
ให้รู้ตัวขึ้นมา
ว่าใจกำลังเผลอคาดหวัง
และ ลองฝึกวางความคาดหวังลง

เมื่อใจลดความคาดหวัง จากผู้อื่นลง
ใจจะรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้ดีขึ้นทันที

ความคาดหวัง
เป็นอุปสรรคของการเชื่อมโยงทางใจ
เหมือนกำแพงที่กั้นไว้

เมื่อลดกำแพงนี้ลง
ความเชื่อมโยงที่มีอยู่แล้วระหว่างมนุษย์ต่อกัน
จะปรากฏขึ้นมาตามแบบของมันเอง

----------------------------
:) 5. การเชื่อมโยงกับสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะ กับธรรมชาติ

การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้สัมผัส การรับรู้
กับธรรมชาติ

ธรรมชาติจะให้พลังที่สงบ และ มั่นคงสู่ใจ

เช่น
การออกตัวเองออกไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆ บ้าน
เช่น การเดินในสวน การรดน้ำต้นไม้ การเงยหน้ามองท้องฟ้า
การสังเกตรายละเอียดเล็กๆ รอบตัว
เช่น แสงแดด กลิ่นหอม เสียงนกร้อง เป็นต้น

ธรรมชาติเหล่านี้
จะช่วยให้ใจไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
เพราะใจจะรับรู้ว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก
พลังธรรมชาติ จะเชือมโยงกับเรา

---------------------------
:) 6. การส่งความเมตตากรุณา กับ ตัวเอง

หลายครั้งความเหงามาจากใจ
ที่รู้สึกไม่ดีกับตนเอง
เช่น มีความไม่ชอบตนเอง รังเกียจตนเอง
มีความคิดเชิงลบกับตนเอง
เหล่านี้ เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเหงาได้ง่าย
เนื่องจาก
ใจกำลังรู้สึกว่า "ถูกทอดทิ้ง"

ความรู้สึกทอดทิ้งนี้
เกิดจากการทอดทิ้งตนเอง
จากการไม่ยอมรับตนเอง
จากการไม่เป็นมิตรกับตนเอง
จากการไม่มีความเมตตากรุณาต่อตนเอง

การทอดทิ้งที่เจ็บปวดที่สุด
ไม่ใช่คนอื่นทอดทิ้งเรา
แต่เป็นเราทอดทิ้งตนเอง
(และ มักจะเกิดขึันโดยไม่รู้ตัว)

การกลับมารัก และ เมตตาตนเอง
คือ การเยียวยาแผลใจที่หลายครั้งเหวะหวะ
จากด่าทอตัวเอง จากการทอดทิ้งตัวเรา

การหยุดการด่าทอตัวเอง
การส่งพลังความรักที่อ่อนโยนให้ต้วเองฅ
การลดความคาดหวังกับตนเองลง
โดย เปลี่ยนจากความคาดหวังตนเอง
(จนไม่สามารถชอบตัวเองตามจริง)
มาเป็นการเข้าใจตัวเอง ตามที่เป็นจริง

ความรู้สึกที่มีต่อตนเอง
จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
Healthy ขึ้น
ความรู้สึกเหงาที่มาจากทอดทิ้งตนเอง จะหายไป

------------------------------
:) 7. การส่งความเมตตากรุณา กับ ผู้อื่น

การให้ การแบ่งปัน การสร้างประโยชน์ กับผู้อื่น
จะช่วยให้ใจเรา รู้สึกเชื่อมโยงกับคนอื่น ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ต่อใจ
จะช่วยให้ความรู้สึกเหงาลดลงได้
เช่น
- การลองทำสิ่งเล็กๆ เพื่อช่วยคนอื่น เช่น การส่งกำลังใจ การแบ่งขนม ให้คนอื่น เป็นต้น

----------------------------
#บทส่งท้าย
<3 ฝึกใจรับรู้ความรู้สึกเหงา
โดย ไม่ขับไล่ความรู้สึกเหงา
แต่เรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกเหงาที่เกิดขึ้นอย่างอ่อนโยน ด้วยความเข้าใจ และ ความเมตตา

<3 เมื่อใจที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ใจจะรู้สึกอบอุ่นขึ้น
ช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียว
จะเปลี่ยนจากความรู้สึกเหงา
เป็น “พื้นที่รู้สึกสุขสงบ” ขึ้นมาแทน

<3 เป็นช่วงที่มีคุณค่าต่อใจ
เมื่อได้กลับมาเป็น "เพื่อนที่ดีกับตัวเอง" 😀

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

----------------------------
🎧ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ สามารถติดตามรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ 🎧
https://youtu.be/tw2iqS8YZUQ