ความวุ่นวายทางการเมือง นอกจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และ การดำเนินชีวิตในสังคมแล้ว
ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจได้อย่างมากด้วยค่ะ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยที่ผ่านมา ในช่วงหลายปีมานี้ และในช่วงปีนี้ที่มีเหตุการณ์หลายอย่าง
ทำให้สภาพจิตใจของคนไทยหลายๆคน ได้รับผลกระทบกันไปต่างๆกัน
มากบ้างน้อยบ้าง
แล้วแต่สิ่งที่ตนเองได้รับผล และความใส่ใจกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
เรามาดูผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ จากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองนะคะ
1. ความวิตกกังวล
สาเหตุ
เหตุการณ์ที่หาความแน่นอนไม่ได้ ไม่รู้จะไปทิศทางใด ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงขึ้นในใจ
กระตุ้นมโนด้านลบไปได้มาก สร้างความรู้สึกวิตกกังวลได้อย่างมาก
หรือ ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ถ้าคนใกล้ตัวเป็นคนละฝ่ายกับเรา เราเห็นไม่เหมือนเค้า เกรงการทะเลาะเบาะแว้ง เกรงเขาจะไม่โอเคกับเรา ถ้าเห็นต่างกัน จึงเกิดความวิตกกังวลได้
หรือวิตกกังวลว่าคนที่ตนรักจะได้รับบาดเจ็บ เดือดร้อน จากไปร่วมชุมนุมทางการเมือง
2. ความรู้สึกซึมเศร้า
สาเหตุ
เหตุการณ์ที่ยืดเยื้อหาทางออกไม่ได้ กระตุ้นความรู้สึกสิ้นหวังได้มากค่ะ ทำให้รู้สึกท้อแท้ หดหู่ได้
ยิ่งถ้าใครมีผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ทางการเมือง เช่น อาชีพการงาน การทำธุรกิจที่ถูกผลกระทบเข้าไปอย่างจัง อาจยิ่งเพิ่มดีกรีความรู้สึกเศร้าและหดหู่ได้มากค่ะ เพราะมีผลความอยู่รอดด้วยค่ะ
3. ความโกรธ
สาเหตุ
จากความเกลียดชัง หรือ ความหงุดหงิดรำคาญ ที่มีต่ออีกฝ่ายที่เราไม่เห็นด้วยกับแนวคิด
หรือ จากความผิดหวัง ที่มีต่อคนที่เราคาดหวังไว้มาก แล้วเขาไม่เป็นอย่างหวัง
เหล่านี้กระตุ้นอารมณ์โกรธ จนเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ทั้งคำพูด การแสดงออก ท่าทางสีหน้า หรือ เข้าไปทำร้ายกันจนบาดเจ็บ
4. ความกลัว
สาเหตุ
จากความที่เหตุกาณ์ที่ไม่มีความแน่นอน มีความรุนแรงเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ควบคุมได้ยาก และ หาที่พึ่งพิงไมได้
ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยของการใช้ชีวิต
กระตุ้นให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นได้
5. ความรู้สึกผิด
สาเหตุ
ด้วยสถานการณ์ที่เร้า และเต็มไปด้วยความคาดหวังถึงชัยชนะ ต้องการทุกเสียงแสดงพลังประชาชน ในการสนับสนุนพวกตน และ ต่อต้านฝั่งตรงข้าม
ทำให้บางคนอาจรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามสิ่งที่ฝ่ายตนเรียกร้องให้ออกมา เช่น การชุมนุมเดินขบวน
ส่งผลให้รู้สึกเหมือนตนเองทำผิด ต่อเพื่อน ต่อคนรัก ต่อคนในครอบครัว กระทั่งต่อชาติ ที่ตนไม่ได้ทำอย่างที่ฝ่ายตนคาดหวัง
หรือ บางคนรู้สึกผิดที่พาคนอื่นไปร่วมชุมนุมแล้วเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ทำให้คนที่ตนพาไปบาดเจ็บหรือเดือดร้อน เกิดความรู้สึกผิดได้
6. ความรู้สึกแปลกแยก
สาเหตุ
ความเห็นต่าง ทำให้หลายคนรู้สึกแปลกแยกโดดเดี่ยว ไม่เป็นที่ยอมรับ ของเพื่อน ของคนรัก ของครองครัว และ ของสังคมที่ตนอยู่
7. ความรู้สึกผิดหวัง เจ็บปวด
สาเหตุ
จากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่เป็นไปอย่างที่ตนวาดหวังไว้
หรือ เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่ตนคิดไว้
8. ความรู้สึกเก็บกด
สาเหตุ
สถานการณ์ที่ต่างฝ่าย ต่างยึดถือความคิดตนเอง อย่างรุนแรง และ แทบไม่ฟังความคิดความเห็นของอีกฝั่ง
ทำให้บางคนไม่กล้าแสดงความคิด ความเห็น ความรู้สึกใดๆ ออกมาเกรงจะไม่เข้าพวก
เกรงจะไม่เป็นที่รักและยอมรับของคนใกล้ตัว คนในสังคมที่ตนอยู่
เลยต้องเก็บกดความรู้สึก ความคิดเห็นและความปรารถนาของตนเองลงไป
9. เกิดความรู้สึกเป็นฮีโร่
สาเหตุ
เกิดจากสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ กระตุ้นความรู้สึกว่าเราต้องเขากู้สถานการณ์ เพื่อผดุงความถูกต้อง ความยุติธรรมเพื่อให้ทุกอย่างออกมาตามอุดมคติ
เพราะ มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแย่ และ ต้องการคนเข้ามากู้วิกฤติ
10. เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
สาเหตุ
สถานการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกรักชาติ หรีอ กระตุ้นความรู้สึก “พวกเราร่วมกัน ต่อต้านพวกมัน” ทำให้เกิดความรู้สึกฮึกเหิมได้มากค่ะ
การเจอคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน รักสิ่งเดียวกัน เกลียดสิ่งเดียว เป็นความรู้สึกหลอมรวม รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน รู้สึกถึงการยอมรับที่มีต่อกันและกัน ทำให้เกิดความรู้สึกเติมเต็มและอิ่มอกอิ่มใจได้อย่างมากค่ะ
จากผลกระทบด้านจิตใจดังที่ได้กล่าวมา มีทั้งความรู้สึกด้านลบ และ ความรู้สึกด้านบวก
แต่ผลทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจ
คือ ทำให้จิตใจขาดความสงบสุข เกิดความปั่นป่วนภายในใจได้ตลอดเวลา ทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง
ส่วนแนวทางการดูแลตัวเอง และ คนรอบข้าง ติดตามได้ตามนี้นะคะ
#7วิธีดูแลใจตัวเองในช่วงการเมืองวุ่นวาย
#4วิธีดูแลจิตใจคนรอบข้างในช่วงการเมืองวุ่นวาย
พญ. ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
เครดิตภาพ : http://www.citypress.co.za/politics/political-unrest-thai-election-commission-recommends-election-delay/
ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจได้อย่างมากด้วยค่ะ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยที่ผ่านมา ในช่วงหลายปีมานี้ และในช่วงปีนี้ที่มีเหตุการณ์หลายอย่าง
ทำให้สภาพจิตใจของคนไทยหลายๆคน ได้รับผลกระทบกันไปต่างๆกัน
มากบ้างน้อยบ้าง
แล้วแต่สิ่งที่ตนเองได้รับผล และความใส่ใจกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
เรามาดูผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ จากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองนะคะ
1. ความวิตกกังวล
สาเหตุ
เหตุการณ์ที่หาความแน่นอนไม่ได้ ไม่รู้จะไปทิศทางใด ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงขึ้นในใจ
กระตุ้นมโนด้านลบไปได้มาก สร้างความรู้สึกวิตกกังวลได้อย่างมาก
หรือ ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ถ้าคนใกล้ตัวเป็นคนละฝ่ายกับเรา เราเห็นไม่เหมือนเค้า เกรงการทะเลาะเบาะแว้ง เกรงเขาจะไม่โอเคกับเรา ถ้าเห็นต่างกัน จึงเกิดความวิตกกังวลได้
หรือวิตกกังวลว่าคนที่ตนรักจะได้รับบาดเจ็บ เดือดร้อน จากไปร่วมชุมนุมทางการเมือง
2. ความรู้สึกซึมเศร้า
สาเหตุ
เหตุการณ์ที่ยืดเยื้อหาทางออกไม่ได้ กระตุ้นความรู้สึกสิ้นหวังได้มากค่ะ ทำให้รู้สึกท้อแท้ หดหู่ได้
ยิ่งถ้าใครมีผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ทางการเมือง เช่น อาชีพการงาน การทำธุรกิจที่ถูกผลกระทบเข้าไปอย่างจัง อาจยิ่งเพิ่มดีกรีความรู้สึกเศร้าและหดหู่ได้มากค่ะ เพราะมีผลความอยู่รอดด้วยค่ะ
3. ความโกรธ
สาเหตุ
จากความเกลียดชัง หรือ ความหงุดหงิดรำคาญ ที่มีต่ออีกฝ่ายที่เราไม่เห็นด้วยกับแนวคิด
หรือ จากความผิดหวัง ที่มีต่อคนที่เราคาดหวังไว้มาก แล้วเขาไม่เป็นอย่างหวัง
เหล่านี้กระตุ้นอารมณ์โกรธ จนเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ทั้งคำพูด การแสดงออก ท่าทางสีหน้า หรือ เข้าไปทำร้ายกันจนบาดเจ็บ
4. ความกลัว
สาเหตุ
จากความที่เหตุกาณ์ที่ไม่มีความแน่นอน มีความรุนแรงเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ควบคุมได้ยาก และ หาที่พึ่งพิงไมได้
ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยของการใช้ชีวิต
กระตุ้นให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นได้
5. ความรู้สึกผิด
สาเหตุ
ด้วยสถานการณ์ที่เร้า และเต็มไปด้วยความคาดหวังถึงชัยชนะ ต้องการทุกเสียงแสดงพลังประชาชน ในการสนับสนุนพวกตน และ ต่อต้านฝั่งตรงข้าม
ทำให้บางคนอาจรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามสิ่งที่ฝ่ายตนเรียกร้องให้ออกมา เช่น การชุมนุมเดินขบวน
ส่งผลให้รู้สึกเหมือนตนเองทำผิด ต่อเพื่อน ต่อคนรัก ต่อคนในครอบครัว กระทั่งต่อชาติ ที่ตนไม่ได้ทำอย่างที่ฝ่ายตนคาดหวัง
หรือ บางคนรู้สึกผิดที่พาคนอื่นไปร่วมชุมนุมแล้วเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ทำให้คนที่ตนพาไปบาดเจ็บหรือเดือดร้อน เกิดความรู้สึกผิดได้
6. ความรู้สึกแปลกแยก
สาเหตุ
ความเห็นต่าง ทำให้หลายคนรู้สึกแปลกแยกโดดเดี่ยว ไม่เป็นที่ยอมรับ ของเพื่อน ของคนรัก ของครองครัว และ ของสังคมที่ตนอยู่
7. ความรู้สึกผิดหวัง เจ็บปวด
สาเหตุ
จากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่เป็นไปอย่างที่ตนวาดหวังไว้
หรือ เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่ตนคิดไว้
8. ความรู้สึกเก็บกด
สาเหตุ
สถานการณ์ที่ต่างฝ่าย ต่างยึดถือความคิดตนเอง อย่างรุนแรง และ แทบไม่ฟังความคิดความเห็นของอีกฝั่ง
ทำให้บางคนไม่กล้าแสดงความคิด ความเห็น ความรู้สึกใดๆ ออกมาเกรงจะไม่เข้าพวก
เกรงจะไม่เป็นที่รักและยอมรับของคนใกล้ตัว คนในสังคมที่ตนอยู่
เลยต้องเก็บกดความรู้สึก ความคิดเห็นและความปรารถนาของตนเองลงไป
9. เกิดความรู้สึกเป็นฮีโร่
สาเหตุ
เกิดจากสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ กระตุ้นความรู้สึกว่าเราต้องเขากู้สถานการณ์ เพื่อผดุงความถูกต้อง ความยุติธรรมเพื่อให้ทุกอย่างออกมาตามอุดมคติ
เพราะ มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแย่ และ ต้องการคนเข้ามากู้วิกฤติ
10. เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
สาเหตุ
สถานการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกรักชาติ หรีอ กระตุ้นความรู้สึก “พวกเราร่วมกัน ต่อต้านพวกมัน” ทำให้เกิดความรู้สึกฮึกเหิมได้มากค่ะ
การเจอคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน รักสิ่งเดียวกัน เกลียดสิ่งเดียว เป็นความรู้สึกหลอมรวม รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน รู้สึกถึงการยอมรับที่มีต่อกันและกัน ทำให้เกิดความรู้สึกเติมเต็มและอิ่มอกอิ่มใจได้อย่างมากค่ะ
จากผลกระทบด้านจิตใจดังที่ได้กล่าวมา มีทั้งความรู้สึกด้านลบ และ ความรู้สึกด้านบวก
แต่ผลทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจ
คือ ทำให้จิตใจขาดความสงบสุข เกิดความปั่นป่วนภายในใจได้ตลอดเวลา ทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง
ส่วนแนวทางการดูแลตัวเอง และ คนรอบข้าง ติดตามได้ตามนี้นะคะ
#7วิธีดูแลใจตัวเองในช่วงการเมืองวุ่นวาย
#4วิธีดูแลจิตใจคนรอบข้างในช่วงการเมืองวุ่นวาย
พญ. ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
เครดิตภาพ : http://www.citypress.co.za/politics/political-unrest-thai-election-commission-recommends-election-delay/
