วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

#7วิธีดูแลใจตัวเองในช่วงการเมืองวุ่นวาย



จากตอนที่แล้ว
#ความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลต่อจิตใจอย่างไร
ได้กล่าวถึงผลกระทบด้านจิตใจและสาเหตุ ที่ทำให้ใจเราไม่สงบ เกิดความปั่นป่วนใจตลอดเวลา จากเหตุการณ์ทางการเมือง

ในตอนนี้ จะกล่าวถึง ว่าเมื่อเกิดความปั่นป่วนใจ
เราจะมีวิธีดูแลจิตใจตนเอง และ คนรอบข้างได้อย่างไรบ้างค่ะ

การดูแลตนเอง
1. การรับข่าวสาร ควรรับฟังข่าวสารอย่างมีสติ ฟังหู ไว้หู

เพราะกระแส social media เช่น facebok หรือ line หรือ twitter เรื่องทุกอย่างส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว การกลั่นกรองก่อนส่งแทบไม่มี

ดังนั้นเป็นวิจารณญาณของผู้รับสาร ที่จะต้องรับสารอย่างมีสติ และ กลั่นกรอง ก่อนเชื่อ ก่อนอิน ไปกับข้อมูลข่าวสาร

การอินข้อมูลโดยขนาดสติ ขาดการกลั่นกรอง ยิ่งทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆได้มากค่ะ

2. ระวัง “อคติ”
ในทางพุทธกล่าวถึง อคติ ไว้ 4 อย่าง คือ
อคติเพราะความรัก
อคติเพราะความชัง
อคติเพราะกลัว
และ อคติเพราะความไม่รู้

เนื่องจากโลกยุคข่าวสารหลั่งไหล มีข้อมูลหลายอย่างที่กระตุ้นอารมณ์มาก ทั้งความรัก(พวกตน) และ ความเกลียดชัง(ฝ่ายตรงข้าม)
แต่หลายครั้งขาดข้อเท็จจริง

ดังนั้นเมื่อเสพข้อมูลข่าวสาร ควรระวัง อคติ 4 อย่างนี้ในใจเสมอ

เพราะ สงครามกลางเมืองในหลายประเทศ เกิดจากความอคติเหล่านี้ ทั้งความรัก (พวกตน) และ ความชัง (พวกตรงข้าม)
เกิดจากอคติจากความหลง ความไม่รู้ ว่าตนเสพข่าวสารเท็จ
ที่แต่งให้ดราม่า น่าสะเทือนใจ เพิ่มดีกรีความรัก ความชัง เสี้ยมกันไม่หยุดหย่อน

จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่แสนสะเทือนใจในหลายประเทศ

เช่น ที่รวันดา (ค.ศ. 1994) หรือ ที่ประเทศไทย เหตุการณ์ 6 ตุลา คนในชาติเดียวกันลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง จากความเกลียดชังกัน จา่กข้อมูลเท็จที่ใส่ความกัน เป็นต้น

สิ่งที่ต้องระวังคือ คนที่รู้สึกว่าตนเป็นกลาง แต่จริงๆแล้วมีอคติอยู่แต่ไม่รู้ตัว จึงยิ่งน่ากลัว
เพราะ ในปุถุชน มีรัก โลภ โกรธ หลง ประจำใจ
ไม่มีทางที่จะเป็นกลางได้อย่างแท้จริง
เพราะความรัก ความชัง ล้วนมีอยู่แล้วในตัวปุถุชนที่ยังมีกิเลสทุกคน

สำคัญคือการรู้ทันความรัก รู้ทันความชัง ที่เกิดขึ้นในใจ
ฝึกรู้ทันบ่อยๆ
จะช่วยลด อคติ ที่เกิดขึ้นได้ค่ะ
เมื่ออคติลดง การกระทำที่ถูกต้อง(จากการมีสติ) ถึงจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงค่ะ

3. ลดการตัดสินตนเองและคนอื่น

การตัดสินตนเองมาก ทำให้รู้สึกผิดง่าย มากเกินไป
การตัดสินคนอื่นมาก ทำให้รูสึกโกรธกับสิ่งต่างๆ และคนอื่นๆ ง่าย มากเกินไป
และ บางทีเราก็ตัดสินผิด เพราะ เข้าใจผิดก็มากค่ะ

การตัดสินล้วนแต่ก่อให้เกิดอารมณ์ด้านลบมากกว่าอารมณ์ด้านบวก
และส่งผลต่อความสัมพันธ์ ที่ไม่ดี ทั้งกับตนเอง และ คนอื่นๆ

ลดการตัดสินตนเองและคนอื่นลงบ้าง
จะช่วยให้ความรู้สึกของเราและคนอื่นดีขึ้นได้ค่ะ

4. ลดการเสพข่าวสาร
ยิ่งเสพข่าวสารมากยิ่งกระตุ้น อารมณ์ต่างๆที่อย่างกล่าวข้างต้นได้มากค่ะ หรือ
ถ้าช่วงนั้นเครียดไม่ไหวจริงๆ งดการเสพข่าวสารชั่วขณะ เพราะเรื่องใหญ่ๆ อย่างไรเราต้องรู้อยู่แล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเล็กๆก็ช่างมันไปก่อนค่ะ
เพราะ ถึงรู้ กับ ไม่รู้ ผลในการดำเนินชีวิตอาจไม่ต่างกันค่ะ

5. หาเวลาพักผ่อนในแบบอื่นๆ นอกจากการเล่น social media
เพื่อลดการเสพข่าวสารที่กระตุ้นอารมณ์

การพักผ่อนในแบบอื่นๆ ทำให้จิตใจได้เบิกบานผ่อนคลาย
มีผลดีกับสุขภาพกายและใจมากกว่าค่ะ

เช่น การออกกำลังกาย การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
การอ่านหนังสือเล่มโปรด การดูหนัง ฟังเพลง การพบปะสังสรรค์ กับเพื่อนๆ การหากิจกรรม งานอดิเรก กับเพื่อน กับคนในครอบครัว
ได้พักผ่อนจริงๆทั้งกายและใจ และ ได้สร้างความสัมพันธ์ดีๆด้วยค่ะ

6. ระวังความคิด ความมโน ของตนเอง

บางเรื่องยังไม่ได้มีอะไรมาก แต่ความคิด ความมโน ของเราเอง ทำให้ทุกข์ไปมากค่ะ ฝึกการรู้ทัน ความคิด ความมโน ของตนเองนะคะ

หางานอดิเรกทำ อย่าปล่อยเวลาให้ว่างๆ
เพราะเวลาว่างหลายคนจะยิ่งคิดมากค่ะ เวลาว่างทำให้ยิ่งฟุ้งซ่านง่ายขึ้นค่ะ
ตอนแรกหลายคนบอกว่าไม่ได้ทุกข์ใจอะไร
แต่พอมีเวลาว่างนั่งคิดนู่นนี่ไปเรื่อยๆ จู่ๆก็ทุกข์ขึ้นมาค่ะ จากความคิดที่ฟุ้งๆไปของตนเองค่ะ

7. ลดความคาดหวังที่สูงเกินไป

เจตนาที่ดีที่อยากเห็นประเทศดี มีการพัฒนาเป็นสิ่งที่ดีค่ะ
แต่ถ้าคาดหวังไว้มากในขณะที่ปัจจัยแวดล้อมยังไม่เอื้อ
จะทำให้ผิดหวัง ท้อแท้ เสียใจ และ โกรธเคืองทุกสิ่งได้มากค่ะ

ความต้องการดูแลบ้านเมือง เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากไปจะเป็นทกุข์ได้ค่ะ
ดังนั้นการหันกลับมาดูแลตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ

เพราะ ถ้าเราแต่ละคนสภาพจิตใจแย่กันไป บ้านเมืองก็คงจะลำบากเหมือนกันค่ะ
บ้านเมืองจะดีหรือไม่ ขึ้นกับคุณภาพกาย คุณภาพใจของคนในประเทศค่ะ

ดังนั้นดูแลบ้านเมืองแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ

หลังจากดูแลตัวเองแล้ว เราสามารถดูแลคนรอบข้างได้นะคะ
ตามลิงคนี้ค่ะ
#4วิธีดูแลจิตใจคนรอบข้างในช่วงการเมืองวุ่นวาย