ข้อดีหนึ่ง
ของงานเยอะและยุ่ง(สุดๆ)
คือ
"ไม่มีเวลาให้คิดมาก" จนทุกข์ใจ
----------------------------------
#ในแง่ของกลไกทางจิตใจเพราะอะไร
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่งานเยอะและยุ่งจนถึงขีดสุด(สุดๆๆ)
ใจจะไม่สามารถครีเอทดราม่าอะไรออกมาได้เลย
เนื่องจากไม่มีเวลาคิดมากแล้ว
เพราะต้องเอาเวลาทุกขณะ เอาจิตใจทุกขณะมาอยู่กับงานตลอดเวลา
ใจจะเข้าสู่ภาวะสมาธิจากการจดจ่อกับงานต่อเนื่อง
ใจเกิดความเป็นกลางขึ้น ณ ขณะนั้น
เพราะ ความคิดปรุงแต่งอย่างอื่นๆ ลดลง
(จากการไม่มีเวลาให้ใจไปปรุงแต่งเรื่องอื่นๆ)
ใจจึงได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะนั้น
ความทุกข์ใจจึงลดลง
ขณะที่ช่วงเวลางานเยอะระดับหนึ่ง
แต่ใจจะยัง "มีช่วงเวลาคิดมาก" ได้
ใจจึงยังมีเวลาครีเอทดราม่าขึ้นในใจมากมาย
เช่น
ความไม่พึงพอใจในชีวิต
ไม่พึงพอใจในงาน
ไม่พึงพอใจในคน
ไม่พึงพอใจในตัวเอง
ภาวะนี้ คือ โทสะเกิดขึ้นในใจ
จึงเป็นช่วงที่ทุกข์ได้มาก
------------------------------------------------
ในความยุ่งมากๆ
หลายครั้งกลับช่วยให้ทุกข์น้อยกว่า
ช่วงที่ว่างๆ กว่า
เพราะ ไม่มีเวลาให้คิดฟุ้งซ่าน
#ความคิดฟุ้งซ่านก่อเกิดความทุกข์
--------------------------------------------------
#ในสถานการณ์ปกติควรดูแลใจอย่างไร
ในสถานการณ์ปกติเราสามารถดูแลใจตนเองไม่ให้ทุกข์จากความคิดฟุ้งซ่านได้เช่นกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
ในธรรมชาติของร่างกาย สมอง และ จิตใจ
เราห้ามความคิดฟุ้งซ่านไม่ได้
แต่เราลดความทุกข์จากความคิดฟุ้งซ่านได้
1) ด้วยการหมั่นรู้เท่าทันความคิด
และ หมั่นฝึกไม่ไปหลงเชื่อทุกความคิดที่เกิดขึ้น
2) การกลับมาใช้ร่างกายเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจ
เช่น การหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ
( อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน)
และ การหมั่นกลับมามีสมาธิกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
และ ลมหายใจ
จะช่วยให้ใจมีกำลังมากขึ้น สดชื่นขึ้น มั่นคงขึ้น
ทั้ง 2 ข้อนี้ จะ "พาให้ใจ" กลับมาอยู่กับ "ปัจจุบันขณะ" มากขึ้น
ทุกจังหวะที่ใจได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
ณ จังหวะนั้น
ใจจะลดการแบกอดีต และอนาคต
ใจจึงเบาขึ้น ทุกข์จึงลดลง ณ ขณะหนึ่งนั้น
---------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
เมื่อทำงานหนักมากต่อเนื่อง
ใจ และ กายจะเกิดการล้าได้
ควรมีเวลาที่จะพักผ่อนที่เหมาะสม
เพื่อดูแลร่างกายและจิตใจ ให้ผ่อนคลาย และ มีความแข็งแรง
เช่น การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่ดีต่ออารมณ์
การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น
การอย่านั่งติตด่อท่าเดิมนานเกิน 60 นาที สำหรับผู้ที่ทำงานแบบนั่งโต๊ะต่อเนื่อง
โดยทุกการนั่ง 30-60 นาที
ควรสลับให้มีการขยับตัวยืดเหยียดร่างกาย
และ พักสายตาจากการจ้องจอต่อเนื่อง สัก 1-2 นาที
เพื่อป้องกันการเกิด office syndrome
บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
สามารถติดตามรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ZhY_Vu6KAMw&t=95s
-----------------------------------------------------
เครดิตภาพน้องหมีสุดยุ่งจาก
: Bac Bac's Diary LINE sticker
#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข
ของงานเยอะและยุ่ง(สุดๆ)
คือ
"ไม่มีเวลาให้คิดมาก" จนทุกข์ใจ
----------------------------------
#ในแง่ของกลไกทางจิตใจเพราะอะไร
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่งานเยอะและยุ่งจนถึงขีดสุด(สุดๆๆ)
ใจจะไม่สามารถครีเอทดราม่าอะไรออกมาได้เลย
เนื่องจากไม่มีเวลาคิดมากแล้ว
เพราะต้องเอาเวลาทุกขณะ เอาจิตใจทุกขณะมาอยู่กับงานตลอดเวลา
ใจจะเข้าสู่ภาวะสมาธิจากการจดจ่อกับงานต่อเนื่อง
ใจเกิดความเป็นกลางขึ้น ณ ขณะนั้น
เพราะ ความคิดปรุงแต่งอย่างอื่นๆ ลดลง
(จากการไม่มีเวลาให้ใจไปปรุงแต่งเรื่องอื่นๆ)
ใจจึงได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะนั้น
ความทุกข์ใจจึงลดลง
ขณะที่ช่วงเวลางานเยอะระดับหนึ่ง
แต่ใจจะยัง "มีช่วงเวลาคิดมาก" ได้
ใจจึงยังมีเวลาครีเอทดราม่าขึ้นในใจมากมาย
เช่น
ความไม่พึงพอใจในชีวิต
ไม่พึงพอใจในงาน
ไม่พึงพอใจในคน
ไม่พึงพอใจในตัวเอง
ภาวะนี้ คือ โทสะเกิดขึ้นในใจ
จึงเป็นช่วงที่ทุกข์ได้มาก
------------------------------------------------
ในความยุ่งมากๆ
หลายครั้งกลับช่วยให้ทุกข์น้อยกว่า
ช่วงที่ว่างๆ กว่า
เพราะ ไม่มีเวลาให้คิดฟุ้งซ่าน
#ความคิดฟุ้งซ่านก่อเกิดความทุกข์
--------------------------------------------------
#ในสถานการณ์ปกติควรดูแลใจอย่างไร
ในสถานการณ์ปกติเราสามารถดูแลใจตนเองไม่ให้ทุกข์จากความคิดฟุ้งซ่านได้เช่นกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
ในธรรมชาติของร่างกาย สมอง และ จิตใจ
เราห้ามความคิดฟุ้งซ่านไม่ได้
แต่เราลดความทุกข์จากความคิดฟุ้งซ่านได้
1) ด้วยการหมั่นรู้เท่าทันความคิด
และ หมั่นฝึกไม่ไปหลงเชื่อทุกความคิดที่เกิดขึ้น
2) การกลับมาใช้ร่างกายเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจ
เช่น การหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ
( อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน)
และ การหมั่นกลับมามีสมาธิกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
และ ลมหายใจ
จะช่วยให้ใจมีกำลังมากขึ้น สดชื่นขึ้น มั่นคงขึ้น
ทั้ง 2 ข้อนี้ จะ "พาให้ใจ" กลับมาอยู่กับ "ปัจจุบันขณะ" มากขึ้น
ทุกจังหวะที่ใจได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
ณ จังหวะนั้น
ใจจะลดการแบกอดีต และอนาคต
ใจจึงเบาขึ้น ทุกข์จึงลดลง ณ ขณะหนึ่งนั้น
---------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
ใจ และ กายจะเกิดการล้าได้
เพื่อดูแลร่างกายและจิตใจ ให้ผ่อนคลาย และ มีความแข็งแรง
เช่น การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่ดีต่ออารมณ์
การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น
โดยทุกการนั่ง 30-60 นาที
ควรสลับให้มีการขยับตัวยืดเหยียดร่างกาย
และ พักสายตาจากการจ้องจอต่อเนื่อง สัก 1-2 นาที
เพื่อป้องกันการเกิด office syndrome
บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
https://www.youtube.com/watch?v=ZhY_Vu6KAMw&t=95s
-----------------------------------------------------
เครดิตภาพน้องหมีสุดยุ่งจาก
: Bac Bac's Diary LINE sticker
#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข