วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567

วิเคราะห์พฤติกรรมผู้เล่น “Squid Game" กับ ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ซิกมันด์ ฟรอยด์ โดย พญ. ทานตะวัน

 



"ทฤษฎีจิตวิเคราะห์

กับ กระบวนการทางจิตใจของผู้เล่นเกม Squid game"

ทุกพฤติกรรมล้วนมีที่มา
(psychic determinism)

พฤติกรรมที่ดีสุดขั้ว
หรือ ชั่วสุดขีด ก็เช่นกัน

------------------------------------------
ในบทความนี้จะนำโครงสร้างทางจิตใจ
จากทฤษฎีจิตวิเคราะห์
ซึ่งพัฒนาโดย ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud)

มาอธิบายพฤติกรรมของผู้เล่นในเกม "Squid game"

Theme ของ
Squid Game ในทั้ง 2 ซีซั่น
เป็นการเล่นเกม
ที่มีลักษณะ
"เล่น-ลุ้น-ตาย" สมชื่อ

จึงเป็นเกมที่มีความโหด สะเทือนใจ สยองขวัญ

เพราะ ถ้าเล่นแพ้ = ตายจริง
และ
ผู้ชนะ มีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุด
ถึง 4.56 หมื่นล้านวอน
หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท

ด้วยเงินรางวัลที่สูงมาก
ประกอบกับผู้เล่น
อยู่ในวิกฤติด้านการเงินอย่างรุนแรง
(ชนิดที่ ความเป็น-ตาย อาจเท่ากัน
ระหว่างการอยู่ในเกม กับ การออกไปใช้ชีวิต)
ความต้องการเงิน
จึงทวีความแสนสาหัสมากกว่าปกติ

จึงเป็นจุดล่อให้ผู้คนยอมเข้าร่วมเล่นเกม
ทั้งที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน

และ เกมนี้
เพิ่มความสยอง

ด้วยการกระตุ้น
สัญชาตญาณดิบของผู้เล่น
ในกระบวนการของเกม
และ
ในกระบวนการระหว่างเกม
มีการออกแบบ
มีการวางหมาก
มีการวางกับดัก
ที่กระตุ้นความกระหายชัยชนะ
กระตุ้นความขัดแย้งในจิตใจ
กระตุ้นความขัดแย้งระหว่างผู้เล่น
แบบไม่หยุด ไม่หย่อนกันเลยทีเดียว

พฤติกรรมความโหดเหี้ยม
จากส่วนสัญชาตญาณดั้งเดิม
จึงถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างทวีคูณ

-------------------------------------------
#ทฤษฎีโครงสร้างทางจิตใจ

:) โครงสร้างทางจิตใจ
จากทฤษฎีจิตวิเคราะห์
กับ พฤติกรรมการเล่นเกม

แนวคิดนี้อธิบาย
แรงขับเคลื่อนในใจของตัวละคร

ซึ่งแสดงออก
ผ่านพฤติกรรม และ การตัดสินใจ
ที่อาจจะดีสุดขั้ว
หรือ อาจจะชั่วสุดขีด

ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันอย่างหนักหน่วง
ที่มีเกมชีวิตเป็นเดิมพัน

ทฤษฎีโครงสร้างจิตใจนี้
ประกอบด้วย Id, Ego, Superego

ซึ่งในทุกคนจะมี 3 ส่วนนี้

แต่การแสดงออกมา
ของแต่ละคน
จะไม่เท่ากัน
ตามระดับการพัฒนาทางจิตใจ
ตามระดับวุฒิภาวะทางจิตใจ
ตามระดับคุณธรรม ศีลธรรม
ซึ่งเป็นพื้นฐานทางจิตใจ
ที่มีในแต่ละคนไม่เหมือนกัน

:) 1. Id
คือ เปฺ็นส่วนที่ขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณดิบ
อยู่ในส่วนจิตไร้สำนึก
ประกอบด้วยแรงขับทางเพศ (libidinal drive)
และ แรงขับทางความก้าวร้าว (aggressive drive)

เพื่อการอยู่รอด
เพื่อการเอาตัวรอด
และ
เพื่อต้องการความสุข
ได้เสพสิ่งที่ตนปรารถนา
ได้ทำอะไรตามความพึงพอใจ
แบบชนิดที่ต้องได้ดั่งใจเท่านั้น
แบบชนิดที่ต้องได้ตอนนี้ ที่นี่ เดี๋ยวนี้
(pleasure principle)
ซึ่งนำมาสู่ความอยาก...และ พฤติกรรม...
ที่จะเอาสิ่งที่ต้องการให้ได้
โดยไม่สนใจวิธีการว่าสร้างปัญหาอะไรหรือไม่
โดยไม่สนผลกระทบใดๆ ที่จะตามมา
โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนบ้าง

ตัวอย่างพฤติกรรม Id
ใน Squid Game
คือ พฤติกรรมที่มุ่งแต่การเอาตัวรอด
พฤติกรรมที่หาผลประโยชน์
หรือ เอาให้ได้ตามสิ่งที่ตนต้องการ
โดย ไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆ กับผู้อื่นๆ
เช่น การทำร้ายผู้อื่น
การหักหลัง
การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
เพื่อให้ตนเองอยู่รอด
เพื่อให้ตนเองได้ตามความต้องการ
เพื่อให้ตนเองได้ชัยชนะ
เพื่อให้ตนเองได้ผลประโยชน์
แม้คนอื่นจะย่อยยับก็ตาม

เป็นต้น

:) 2. Ego
Ego คือ ตัวกลาง
ที่พยายามจัดสมดุลระหว่าง Id กับ Superego
และ กับความเป็นจริง สิ่งแวดล้อมรอบตัว
โดยผ่านกระบวนการคิด วิเครราะห์
(secondary process)
และ อิงเหตุและผลตามความเป็นจริง
(reality principle)

ตัวอย่างพฤติกรรม Ego
ใน Squid game
คือ
พฤติกรรมที่ผู้เล่นมีการ
พยายามวางแผน
พยายามใช้เหตุผล
พยายามปรับตัว
เพื่อทั้งรักษาชีวิต
พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น หรือ
การพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง/การทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ล้มตาย โดยไม่จำเป็น
เช่น การพยายามหาความร่วมมือกับผู้อื่น
หรือ การพยายามอดทน
การพยายามหลีกเลี่ยงการทะเลาะ การปะทะกัน
เพื่อให้รอดไปด้วยกัน ในสถานการณ์นี้
เป็นต้น

:) 3. Superego
ส่วนนี้เป็นตัวแทนของ
คุณธรรม ศีลธรรม (conscience)
และ ภาพลักษณ์ตามมาตรฐานทางสังคม (ego ideal)

พฤติกรรมที่แสดงออกของ superego
ใน Squid game
คือ
พฤติกรรมที่มีความเห็นอกเห็นใจ
มีคุณธรรม
พฤติกรรมยึดถือความถูกต้อง
แม้ต้องเสี่ยงชีวิตตนเอง
เช่น การยอมเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
หรือ การไม่ยอมทำผิดศีลธรรม
เพื่อแลกกับการอยู่รอด/ได้ตามความปรารถนาของตนเอง
เป็นต้น

ซึ่งส่วน superego
อาศัยการพัฒนาทางจิตใจระยะ oedipal (อายุ 3-5 ปี)
ซึ่งบางคนมีปัญหาในการพัฒนาในระยะนี้
จึงมีความบกพร่องในส่วน superego

นำมาสู่พฤติกรรมที่ไร้ศีลธรรมได้
--------------------------------
#ตัวอย่างพฤติกรรม
ตัวอย่างพฤติกรรมของ
id Ego Superego
ใน Squid Game

:) 1. Id
พฤติกรรมตัวละครที่ขับเคลื่อนด้วย Id เป็นหลัก
เช่น
ผู้เล่นที่มีพฤติกรรมโหดร้าย ทารุณ
ทำเรื่องผิดศีลธรรม
ฆ่าผู้อื่นอย่างไร้ความปรานี
เพื่อเพิ่มโอกาสรอดของตนเอง
หรือ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ
โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อน หรือ ขีวิตของผู้อื่น

ใน squid game ซึ่งเป็นเกมที่กดดัน
ระหว่างความเป็น-ความตายใกลักันนิดเดียว
สถานการณ์ลักษณะนี้ โดยธรรมชาติ
จะกระตุ้นให้แรงขับเคลื่อนของ Id
ซึ่งเป็นสัญชาตญาณดิบ
(หรือ คนทั่วไป มักเรียกว่าด้านมืด)
ออกมาได้อย่างมากมาย

เพราะ สิ่งมีชีวิต
ในระดับสัญชาตญาณล้วนพยายามดิ้นรนเอาตัวให้รอด

:) 2. Ego
พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย Ego
เช่น ตัวเอกของเรื่องที่ต้องปรับตัว
พยายามไม่ทำร้ายคนอืน แม้จะถูกยั่วยุให้รู้สึกโกรธ
และ พยายามหาทางอยู่รอดในเกม ที่กดดัน
โดยการพยายามใช้การวางแผน
การสร้างพันธมิตร
การหาโอกาสที่จะรอดไปด้วยกัน
เป็นต้น

พฤติกรรมส่วนนี้
คือ ความพยายามสมดุล
ระหว่างแรงขับดันสัญชาตญาณดิบจาก Id
แรงขับเคลื่อนทางคุณธรรม ศีลธรรมจาก Superego
และ กับสภาพแวดล้อม สถานการณ์รอบตัว

:) 3. Superego
พฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย Superego
เช่น ตัวละครที่ยอมเสียสละตนเอง เพื่อผู้อื่น
หรือ
พฤติกรรมพยายามช่วยเหลือผู้อื่น
แม้จะนำมาซึ่งความเดือดร้อน/ความสูญเสีย
ให้กับตนเองก็ตาม

พฤติกรรมนี้ คือ
การพยายามดำรงสิ่งที่ถูกต้อง
สิ่งที่เป็นอุดมคติ
สิ่งที่เป็นคุณธรรม ความดี
แม้จะอยู่ในสถานการณ์โหดร้ายที่สุดก็ตาม

-----------------------------------
#บทส่งท้าย
ในสถานการณ์ที่โหดร้ายขนาดนี้

คำถามสำคัญ และ ท้าทาย
ต่อการเข้าใจ 3 ส่วน (id, ego, superego)
ในจิตใจตนเอง
คือ
"คุณจะทำอย่างไร
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้นขนาดนี้?"

และ เกมชีวิตจริง
ที่หลายครั้งกดดันจิตใจมากมาย
3 ส่วน (id, ego, superego) นี้
ในจิตใจ
แสดงพฤติกรรมออกมาอย่างไรบ้าง?

#การเติบโตทางจิตวิญญาณ
ในแง่การเติบโตทางจิตใจ
สิ่งสำคัญที่สุด
ไม่ใช่การปฏิเสธส่วนใดส่วนหนึ่ง

แต่คือการมีสติ
รับรู้
เท่าทัน
3 ส่วนนี้ (id, ego, superego)
ที่กำลังเกิดขึ้นในจิตใจ

คือ ช่วงเวลาที่ใจกลับมาสมดุลอย่างแท้จริง

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

-------------------------------------------
:) ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้
สามารถรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ :)
https://www.youtube.com/watch?v=ACcDJMp9i8k

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567

Enneagram: ประชาสัมพันธ์คอร์ส "นพลักษณ์ขั้นพื้นฐาน" (ฺBasic Enneagram) โดย พญ. ทานตะวัน

 

 


🙂 ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ครับ🙂
คอร์สนพลักษณ์ขั้นพื้นฐาน
Basic Enneagram

คอร์สเพื่อการค้นหาลักษณ์
(หรือบุคลิกภาพ)ภายในตน
ด้วยศาสตร์นพลักษณ์ 🙂

นำมาสู่การ
เข้าใจตนเอง
เข้าใจคนอื่น
เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต

------------------------------
"เราเป็นคนลักษณ์ไหน ?"
"คนที่เรารู้จักเขาเป็นอย่างไรนะ?"

ร่วมหาคำตอบได้ใน
❤ คอร์สนพลักษณ์ขั้นพื้นฐาน ❤
(ฺBasic Enneagram)
🙂 ในวันเสาร์ที่ 1 - อาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568
เวลา 9.00-17.30 น.
ณ Abloom Exclusive Serviced Apartments
(ใกล้ BTS สนามเป้า)

❤ โดยทีมวิทยากรเชี่ยวชาญศาสตร์นพลักษณ์มามากกว่า 20 ปี

🙂 1. ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล
จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์นพลักษณ์
และ แนวทางการพัฒนาจิตใจเพื่อให้มีความสุขมากขึ้น
(เจ้าของเพจ FB และ Youtube ยิ่งโตยิ่งสุข)

🙂 2. อ.เมธี จันทรา
ผู้เชี่ยวชาญดนตรีนพลักษณหนึ่งเดียวในประเทศไทย
และ ดนตรีเพื่อการรู้จักตนเองอย่างลึกซึ้ง

🙂 3. อ. กาญจณาพร มีใหญ่ เพอร์คินส์
วิทยากรนพลักษณ์ ด้านการใช้ศิลปะเพื่อการรู้จักตัวเอง และ การเติบโต

🙂 และ ผู้ช่วยวิทยากร
คุณทศวรรษ สุรเดชาสกุล
-------------------------------------------------
🙂 สิ่งที่ท่านจะได้รับจากคอร์สนี้ท่านจะ
❤ 1. ได้ทราบว่าตนเอง
มีบุคลิกภาพแบบลักษณ์ (type) ไหน

❤ 2. รู้จักและเข้าใจตนเอง และ ผู้อื่น อย่างลึกซึ้ง
- เข้าใจถึงที่มาของพฤติกรรม
ความคิด
ความต้องการ
และ แรงผลักดันข้างใน

❤ 3. รู้จักจุดแข็ง-จุดอ่อนในตนเอง
และ เข้าใจที่มาของจุดแข็ง-จุดอ่อนในตนเอง
นำมาสู่การปรับสมดุลในตนเอง

❤ 4. ได้แนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิต
และ แนวทางพัฒนาความสัมพันธ์
จากความเข้าใจตนเอง และ ผู้อื่นมากขึ้น
---------------------------------------------------
🙂 ค่าลงทะเบียนท่านละ 5,900 บาท
❤ พิเศษ : ลดเหลือท่านละ 5,600 บาท 🙂
เมื่อท่านสมัครภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
หรือ สมัครตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป
🙂 รวม อาหารกลางวัน(บุฟเฟ่ต์) 2 มื้อ และ อาหารว่าง 4 มื้อ
พร้อมหนังสือนพลักษณ์ 1 เล่ม และ เอกสารประกอบการอบรม 🙂

-----------------------------------------------------
🙂 สนใจสอบถามรายละเอียดได้ทางลิงค์
LINE OFFICIAL : @504jcald
หรือ ทางลิงค์นี้ https://lin.ee/Pfw3uGo
หมายเหตุ :
🙂 รับจำนวนจำกัด😃
ขอบคุณครับ
Admin

#enneagram
#นพลักษณ์

------------------------------------------
❤ ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายการประชาสัมพันธ์เกี่ยวคอร์สนี้ รับฟังได้ทางลิงค์นี้ ❤
https://www.youtube.com/watch?v=yZbeo40Gems

------------------------------------------

#enneagram
#นพลักษณ์

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"เมื่อใจว้าวุ่น" 7 วิธีดีต่อใจ ลดภาวะใจว้าวุ่น โดย พญ.ทานตะวัน

 

 

"เมื่อใจว้าวุ่น ควรดูแลใจอย่างไร?"

เมื่อจิตใจมีความว้าวุ่น
หรือ มีความไม่สงบเกิดขึ้น

แนวทางการดูแลจิตใจมีดังนี้

1. ฝึกสติและสมาธิ

- หายใจเข้า- ออก แบบ ลึก ๆ ช้า ๆ.... (อาจใช้การหลับตาช่วยเพิ่มเติม)
- พาใจที่กำลังว้าวุ่น ให้มาสนใจที่ลมหายใจเข้าและออกแทนการคิดฟุ้งซ่าน
- จะช่วยให้ใจกลับสู่ปัจจุบันขณะ
- จะช่วยให้ใจจะค่อยๆ ลดความรู้สึกว้าวุ่นลงทีละเล็กทีละน้อย
- จะช่วยให้ใจค่อยๆ เย็นขึ้น
- เนื่องจาก จังหวะที่ใจ หันมาสนใจที่ลมหายใจ
แทนการไปวุ่นวายตามความคิด...
- ใจจะค่อยๆ ปั่นป่วนน้อยลงๆ ...
- ตั้งสติ รับฟังความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจว่า
"ตอนนี้ใจกำลังรู้สึกอะไร"
รับฟังสิ่งที่เกิดขึ้นในใจอย่างอ่อนโยน

2. เขียนระบาย ความคิด ความรู้สึก

- เขียนบันทึกความคิด ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ในขณะนี้
- จะช่วยระบายความตึงเครียด
- ช่วยทำให้เกิดความเข้า"ใจ" ใจตนเองมากขึ้น

ทุกพฤติกรรมล้วนมีที่มา
ความรู้สึกปั่นป่วนก็เช่นกัน

ความเข้าใจ "ใจ"
จะช่วยให้เราดูแลใจได้อย่างเหมาะสม

เพราะความรักอย่างเดียวไม่พอ
ต้องมี "ความเข้าใจ" ด้วย
การดูแลใจตนเองก็เช่นกัน :)

3. ขยับร่างกายเบาๆ บ่อยๆ

- การเคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ เช่น เดินเล่น โยคะ หรือ วิ่งเบา ๆ
- จะช่วยระบายพลังงานลบ
- จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง

เมื่อร่างกายขยับ
จิตจะค่อยๆ นิ่งขึ้น

4. หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย สไตล์เรา
แต่ละคนมีจริตความชอบไม่เหมือนกัน
ทำกิจกรรมที่เป็นสไตล์เรา
ที่ใจรู้สึกดี และ ผ่อนคลาย
ในแบบที่ healthy
เช่น
- ฟังเพลงเบา ๆ พาใจผ่อนคลาย
- เดิมชมธรรมชาติ ช่วยให้ใจเบิกบาน เช่น ชมต้นไม้ ดอกไม้ เดินในสวน เป็นต้น
- อ่านหนังสือที่ช่วยให้ใจสบาย
- ทำงานศิลปะ เช่น ระบายสี วาดภาพ
เป็นต้น

5. ปรึกษาคนที่ไว้วางใจ
- บอกเล่าความรู้สึกกับคนใกล้ชิด
หรือ
- ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
เช่น นักจิตวิทยา หรือ จิตแพทย์

- บางครั้ง การเก็บไว้ในใจ
จะยิ่งเพิ่มความว้าวุ่น

- เพราะ ยิ่งคิด จิตก็ยิ่งปรุงแต่ง ไปในแง่ลบมากขึ้นๆ
- การหมกมุ่นหมุนวนกับความคิดอยู่คนเดียว
- จะเหมือนมีพายุความคิดหมุนวนในสมอง และ ในใจ
- จนใจเกิดความว้าวุ่นได้มากๆ

- การได้บอกใครสักคน (ที่เราไว้ใจ)
หลายครั้งช่วยให้ใจรู้สึกสงบ ผ่อนคลายขึ้นได้

และ
- หลายครั้งได้ทางออก
อย่างที่ตอนคิดวนๆ อยู่คนเดียว ไปไม่ถึง

6. ดูแลร่างกาย

- ร่างกาย เป็นองค์ประกอบสำคัญของจิตใจ
- การดูแลร่างกายให้แข็งแรง
เป็นส่วนสนับสนุนสุขภาพใจที่แข็งแรงมากขึ้น
เช่น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เป็นต้น

7. ทบทวน และ เท่าทัน ความคิด

- สังเกตว่าภายใต้ "ความรู้สึกว้าวุ่น"
มีความคิดอะไร ที่ผลักดันอยู่
จนเป็นเหตุให้ใจว้าวุ่น

- การเท่าทัน "ความคิด"
จะช่วยลดการเป็น "ทาสความคิด"
- เพราะ ในความเป็นจริง
ใจ "ไม่ต้องเชื่อทุกสิ่งที่สมองคิด"
- เพราะ สมองมีลักษณะ autopilot คือ คิดไปเรื่อยไปเปื่อย...

- หมั่นเตือนตนเองว่าเรื่องราวต่าง ๆ มักเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
สิ่งที่เรารู้สึกกังวลก็เช่นกัน
- กลับมาตั้งหลัก
และ โฟกัสในส่วนที่เราจัดการได้
และ ฝึกปล่อยวางในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้

---------------------------------------

หากความรู้สึกว้าวุ่นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
และ รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ
แนะนำการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
เช่น จิตแพทย์ หรือ นักจิตวิทยา เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

:) ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ ติดตามรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ :)
https://www.youtube.com/watch?v=yDCbfgNNb6k

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

--------------------------------------
#หมายเหตุ

ท่านใดต้องการพบปรึกษากับจิตแพทย์
สามารถดูรายละเอียด
"รวมรายชื่อ โรงพยาบาล และ คลินิกที่มีจิตแพทย์ทั่วประเทศ" ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=2011213002316039&set=a.499791366791551&locale=th_TH

--------------------------------------
เครดิตภาพ : ขอบคุณภาพ ว้าวุ่น จาก
https://inside-out-emotions.fandom.com/wiki/Anxiety

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เมื่อเราทำสิ่งที่ผิดพลาดไป การให้อภัยตัวเองเป็นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น? โดยพญ.ทานตะวัน




 เมื่อวันที่เราทำสิ่งที่ผิดพลาดไป


การให้อภัยตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ

บางครั้งในชีวิต ความผิดพลาดทำให้ทำใจได้ยาก
หรือ ทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

รู้สึกขมขื่น ผิดหวังกับอดีต
ซึ่งสิ่งเหล่านี้
จะฉุดรั้งให้เข้าไปอยู่ในวังวนแห่งความเศร้าโศก

การตั้งสติ และ กลับมาเห็นคุณค่าของปัจจุบันขณะ
จะช่วยให้สลัดความรู้สึกเก่าๆ ทิ้งไปได้

การลืมตาดูไปรอบๆ สิ่งที่มีอยู่ขณะนี้
ดูดีๆ ยังมีสิ่งดีๆ เหลืออยู่
ใส่ใจสิ่งที่มีอยู่ และ ในขณะนี้เรายังมีโอกาสที่ดี
ที่จะดูแลสิ่งที่มีเหล่านี้
ในมุมกลับ ถ้ายังพะวงอยู่กับความผิดพลาดในอดีตมากเกินไป
อาจส่งผลทำให้ไม่ได้ดูแลรักษาสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้
และ อาจทำให้อนาคตอาจจะเกิดการสูญเสียสิ่งที่คุณยังสามารถดูแลรักษาได้ ไปอย่างน่าเสียดาย

แม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและจิตใจ

การให้อภัยตัวเอง ก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ

เพื่อให้ชีวิตก้าวต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ และ อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพราะ อนาคต เป็นผลจากวันนี้

เหมือนที่วันนี้ ก็เป็นผลมาจากอดีต

เราไม่สามารถกลับไปแก้อดีตได้

เราทำได้ คือ ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด

เพื่อพรุ่งนี้ และ อนาคตที่ดี

#ทุกความผิดพลาดคือความตระหนักรู้

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

-----------------------------------
รับฟังเสียงบรรยายได้ทาง
https://www.youtube.com/watch?v=RXwJ8-8TeRs

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ในวันที่รู้สึกย่ำแย่ ความรักและเมตตาตนเอง เป็นยาขนานเอกที่ช่วยเยียวยาใจได้อย่างดี โดย พญ.ทานตะวัน

 

 

"ความเมตตากรุณาต่อตนเอง (self-compassion)"

ในวันที่รู้สึกย่ำแย่
การสามารถรักและเมตตาตนเองได้ เป็นสิ่งที่มีความหมายมากค่ะ

เพราะในวันที่ต้องเจอกับความผิดพลาด ผิดหวัง พบกับความเจ็บปวดชอกช้ำ

พลังของความรักความเมตตาจากตนเอง
จะโอบอุ้มใจเราไม่ให้บอบช้ำมากนักค่ะ

พลังของความรักความเมตตาจากตนเอง
จะช่วยทำให้จิตใจ อบอุ่น นุ่มนวล
เพราะ จิตใจสัมผัสได้ถึง พลังอ่อนโยนที่ส่งเข้ามาปลอบโยนจิตใจค่ะ

.

ความรักความเมตตาจากตนเอง
เป็นความรักที่ประกอบไปด้วย

1. การยอมรับ

2. การเข้าใจตนเองอย่างที่เป็น

3. ไม่ตัดสินตนเอง ไม่ด่าทอจิกตีตนเอง ไม่เหยียดหยามตนเอง ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมตนเอง

4. พร้อมให้อภัยตนเอง ด้วยความเข้าใจ
(แต่ไม่ใช่การเข้าข้างตนเอง ไม่ใช่การสปอล์ยตนเอง
คือ ถ้าเราทำผิด รู้ว่าผิด และมาทำความเข้าใจ ให้อภัย
และ เริ่มต้นใหม่ เพื่อหาทางแก้ไขให้ดีขึ้นด้วยความรักความเมตตา)

5. ส่งพลังดีๆ ให้กับตนเอง
เช่น ส่งความรัก ความอบอุ่น ความปรารถนาดีให้กับตนเอง

พลังดีๆเหล่านี้
จะช่วยให้จิตใจอบอุ่น และ มีพลังในการกลับมาใช้ชีวิตดีๆต่อไปค่ะ

บทความโดย ผศ.พญ. ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

------------------------------------
- สามารถรับฟังเสียงบรรยายได้ทาง
https://www.youtube.com/watch?v=1x429I2DNxg

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"เมื่อรู้สึกเศร้า" ควรดูแลจิตใจอย่างไร? โดย พญ.ทานตะวัน

 



"เมื่อรู้สึกเศร้า"

ควรดูแลจิตใจอย่างไร?

เมื่อเกิดความรู้สึกเศร้า
การดูแลจิตใจอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อจะช่วยให้ใจเรา
สามารถรับมือกับช่วงเวลาที่รู้สึกยากลำบากนี้
ได้อย่างดีต่อใจ :)

------------------------

<3 9 แนวทางที่ดีต่อใจ <3
ดังนี้

:) 1. การยอมรับและการเผชิญกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น

สิ่งสำคัญลำดับแรก
คือ
การยอมรับความรู้สึกเศร้าที่เกิดขึ้น
การไม่พยายามเก็บกด หรือ ปฏิเสธความรู้สึกนั้น
การปล่อยให้ตัวเองได้รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง
การเผชิญกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
โดยไม่ไปปิดกั้นความรู้สึก

จะช่วยให้ใจเรา
รู้สึกปลอดโปร่ง สงบกว่า
และ ลดภาวะการสะสมอารมณ์ด้านลบ

:) 2. การให้เวลากับตนเอง

ความเศร้า
เค้าต้องการเวลาในการบรรเทา

อย่ากดดันใจ หรือ เร่งรัดใจ
ว่าต้องรีบหายเศร้าเร็วๆ

แต่ควรให้เวลากับใจตนเอง
ในการรับรู้ความรู้สึกนี้
และ
ปล่อยให้ใจค่อยๆ ฟื้นตัว
ตามจังหวะธรรมชาติของใจ

:) 3. การพูดคุยกับใครสักคนที่สามารถพูดคุยได้

การได้พูดคุยและระบายความรู้สึกกับคนที่เราไว้ใจ
เช่น เพื่อน ครอบครัว
หรือ กับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตใจ
เช่น จิตแพทย์ หรือ นักจิตวิทยา

จะช่วยให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
และช่วยลดภาวะหนักใจ

และ การได้พูดออกมา
หลายครั้งจะช่วยให้เราเห็นมุมมองใหม่
ซึ่งเป็นการช่วยให้เกิดปัญญาทางใจ
และ ช่วยทำให้ใจรู้สึกดีขึ้น

:) 4. การฝึกรับรู้ลมหายใจเข้า-ออก (Breathing Exercise)
และ การฝึกสติรู้ตัว (Mindfulness)

การฝึกรับรู้การหายใจเข้า-ออก ลึก ๆ ช้า ๆ
และ การฝึกสติรู้ตัว
จะช่วยให้ใจเรามีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน
และช่วยให้ใจลดภาวะความคิดฟุ้งซ่าน
ที่เกิดจากการคิดวนเวียนอยู่กับความเศร้า

สติ (Mindfulness)
จะช่วยให้ใจมองเห็น
"ความรู้สึกเศร้าอย่างเป็นกลาง"
และ
"ลดภาวะใจจมอยู่ในความคิดลบ"

:) 5. การทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ช่วยบรรเทาความเครียด

เช่น การออกกำลังกาย การฟังเพลงที่ทำให้ใจรู้สึกผ่อนคลอาย
การดูหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ การทำกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ
เช่น วาดรูป ทำอาหาร เป็นต้น

จะช่วยให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
และ ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของใจ
จากความเศร้าได้

:) 6. การเขียนบันทึก การจดบันทึกความรู้สึก

การเขียนบันทึกเป็นการระบายอารมณ์ความรู้สึกอีกรูปแบบหนึ่ง
การจดบันทึก
ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ซึ่งจะทำให้
เราเกิดความเข้าใจในหลายสิ่งดังนี้
- เข้าใจตนเองว่า เพราะอะไรใจเราจึงรู้สึกเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่มาของความรู้สึกเศร้าในใจเรา เกิดจากอะไร
- เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นมากขึ้น
ซึ่งอาจนำมาสู่การแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมมากขึ้น

:) 7. การดูแลสุขภาพกาย

ความเชื่อมโยงระหว่างกายและใจเป็นสิ่งสำคัญมาก
ในช่วงที่รู้สึกเศร้า
การพักผ่อนให้เพียงพอ
การทานอาหารที่มีประโยชน์
การออกกำลังกาย
จะช่วยให้สมองปล่อยสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น
เช่น สารเอนดอร์ฟิน
ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรู้สึกเศร้าได้

:) 8. การให้กำลังใจตัวเอง
และ การเป็นเพื่อนที่ดีกับตนเอง

การพูดคุยกับตัวเองในเชิงบวก
การส่งพลังใจดีๆ ให้ตนเอง
เช่น การให้กำลังใจตนเองว่า
"ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอนะ"
"ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนนะ"
"ฉันเข้าใจเธอนะ"
"ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะ"
“เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”
"ทุกคนย่อมมีวันที่เศร้าได้นะ"
"ฉันเชื่อว่าทุกอย่างะค่อยๆดีขึ้นนะ”
"ฉันรักเธอนะ"
"ฉันภูมิใจในเธอนะ"
เป็นต้น

การเป็นเพื่อนที่ดีกับตัวเอง
จะช่วยให้เรามีแรงใจมากขึ้นอย่างมาก
และ คนที่เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนที่ดีกับเราจริงๆ
คือ ตัวเราเอง
อย่าลืม "เป็นกัลยาณมิตร กับตนเอง"

:) 9. การลดการใช้อินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย

ในช่วงที่รู้สึกเศร้า
การเห็นชีวิตของคนอื่น
(ซึ่งคนมักจะลงแต่ด้านดีๆ ของตนเองในโลกโซเชียล)

จะทำให้ใจเราเกิดการเปรียบเทียบ
และ
กลับมารู้สึกแย่กับตนเอง โดยใช่เหตุ
เรียกว่า ภาวะทุกข์ฟรี

การลดการใช้งานโซเชียลมีเดียสักระยะ
จะช่วยให้ใจเราไม่จมอยู่ในความคิดเชิงลบ
และ
นำเวลามาดูแลตนเองอย่างสร้างสรรค์
ดังในข้อ 1-8 ข้างต้น

----------------------------------

#บทส่งท้าย
การดูแลจิตใจในช่วงที่เศร้าอย่างเหมาะสม
เป็นการให้โอกาสใจตัวเอง
ในการพักฟื้น

เมื่อเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไป
ใจเราจะเข้มแข็งมากขึ้น
ใจเราจะเกิดการเติบโตมากขึ้น
จากความเข้าใจตนเอง เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต
มากขึ้น
ซึ่งเป็นปัญญาทางจิตใจที่มีคุณค่าอย่างมาก

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

-----------------------------

#หมายเหตุ

ท่านใดต้องการพบปรึกษากับจิตแพทย์
สามารถดูรายละเอียด
"รวมรายชื่อ โรงพยาบาล และ คลินิกที่มีจิตแพทย์ทั่วประเทศ" ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=2011213002316039&set=a.499791366791551&locale=th_TH

---------------------------
:) ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ สามารถรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ :)
https://www.youtube.com/watch?v=yzXMTvesdzo&lc=UgyvpNXQuQNjBXDB1454AaABAg

----------------------------------

เครดิตภาพ Sadness : https://www.indiewire.com/features/general/immersed-in-movies-phyllis-smith-talks-the-joy-of-playing-sadness-in-pixars-inside-out-123281/

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

Constructive feedback มีลักษณะอย่างไร?และ สำคัญอย่างไร? ในความสัมพันธ์และการทำงาน โดย พญ.ทานตะวัน

 

 

"เรื่องของ Constructive Feedback"

การ feedback อย่างสร้างสรรค์
มีลักษณะอย่างไร?

และ
มีความสำคัญในความสัมพันธ์และการทำงานอย่างไร?

สามารถรับฟังรายละเอียดได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=A5-5gMiNjIE

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข 

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Enneagram: ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด การตระหนักรู้ตน สู่การเติบโตของชาวลักษณ์ 5 โดย พญ.ทานตะวัน

 

 

"ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"
การตระหนักรู้ตน
สู่การเติบโตของชาวลักษณ์ 5

มีความหมายอย่างไร?
และ
ความรอบรู้แบบไหน
ที่นำไปสู่การเติบโตภายใน?

ท่านใดสนใจติดตามรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ 🙂
https://youtu.be/3XoXnxnWKF4

#enneagram
#เอ็นเนียแกรม
#นพลักษณ์

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข