วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ในมิติทางจิตใจ "ความสมหวัง" ไม่สำคัญเท่า "การปล่อยวาง" เพราะ อะไร จึงเป็นเช่นนั้น? โดย พญ.ทานตะวัน

 

 

ในระดับคุณภาพจิตใจ

ความสมหวัง ไม่สำคัญเท่า การปล่อยวาง
-------------------------------------------------------

ความ(อยาก)สมหวัง เป็น งานของกิเลส
การปล่อยวาง เป็น งานของปัญญา

------------------------------------------
#สุขจากความสมหวัง
ความสมหวัง เป็นความสุขเมื่อได้ดั่งใจหมาย
เมื่อความอยากเกิดขึ้น
จิตใจจะมีอาการร้อนรน
เรื่องที่อยากสมหวังน้อย จะร้อนรนน้อย
เรื่องที่อยากสมหวังมาก จะยิ่งร้อนรนมาก

เมื่อได้ดังหวัง ใจจะฟู
เรื่องที่หวังมาก ใจจะฟูมาก
เรื่องที่หวังน้อย ใจจะฟูน้อย

และ เมื่อผิดหวัง
ใจจะฝ่อฟีบ
พร้อมกับความทุกข์ทรมานใจ

เรื่องที่หวังน้อย เมื่อผิดหวัง ใจจะไม่เจ็บมาก
เรื่องที่หวังมาก เมื่อผิดหวัง ใจจะเจ็บมาก

ความอยากสมหวัง เป็นธรรมชาติของจิตใจของคนทั่วไป

ไม่ต้องฝึกฝน ก็เป็นเอง
ในทางธรรม คือ ความอยากถูกผลักดันด้วยกิเลส

#สุขจากการปล่อยวาง

ส่วนการปล่อยวาง
มาจากใจที่ได้รับการฝึกฝน
จนเกิดปัญญา
เข้าใจความจริงของชีวิต
เข้าใจความจริงของจิตใจ
จึงเกิดการยอมรับสิ่งต่างๆ อย่างที่เป็นได้มากขึ้นๆ ตามลำดับการฝึกฝน

ใจที่ฝึกฝนมาก
ระดับปัญญาทางใจจะเกิดขึ้นได้มาก
โอกาสปล่อยวางจะยิ่งมากขึ้นตามลำดับ

ใจที่ปล่อยวาง
กับ สิ่งที่เรา
บังคับไม่ได้
ควบคุมไม่่ได้
เปลี่ยนแปลงให้ได้ดั่งใจเราไม่ได้

นั่นคือใจที่มีปัญญา เข้าใจธรรมชาติความจริง

ใจจึงทุกข์กับสิ่งเหล่านี้น้อยลง

ใจที่ทุกข์น้อยลง
คือ ใจค่อยๆปลดส่วนที่ทำให้ทุกข์ใจ

ใจจึงมีคุณภาพที่ดีขึ้น
ใจสบายขึ้น
ใจพบความสุขที่มีคุณค่าต่อใจอย่างแท้จริงมากขึ้น

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ใจที่เกิดปัญญาพาลดทุกข์
#ยิ่งโตจึงยิ่งสุข

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

🙂 ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ 🙂
https://youtu.be/ZZqsJGnBHkY

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567

Enneagram : แนวทางการเติบโตของชาวลักษณ์ 4 (คนช่างฝัน)

 

 

Enneagram : แนวทางการเติบโตของชาวลักษณ์ 4
(คนช่างฝัน)
ลักษณ์ 4 คนช่างฝัน
จะรู้สึกมั่นคงมากขึ้น
เมื่อกลับมาให้ความสนใจสิ่งดีๆ
ในชีวิตที่มีอยู่จริง ณ ตอนนี้
มากกว่า สิ่งที่ขาดหายไป
แนวทางการเติบโตของชาวลักษณ์ 4 (ชาวช่างฝัน)
สามารถติดตามรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ


วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567

"การพูดในที่สาธารณะ (public speaking) ที่แสดงความเป็นผู้นำที่ดี"

 

 
"การพูดในที่สาธารณะ (public speaking)
ที่แสดงความเป็นผู้นำที่ดี"

ของโค้ชทีมชาติสเปน และ โค้ชทีมชาติอิตาลี
ในการพูดหลังเกมแข่งขัน
ฟุตบอลยูโร 24 รอบแรก
------------------------------------------
จากผลการแข่งขันในรอบแรก
ในศึกฟุตบอลยูโร 24
สเปน - อิตาลี เมื่อคืน
โดย สเปน ชนะ อิตาลี 1-0
ซึ่งในภาพรวมของเกม
สเปนมีการเล่นที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าอิตาลีอย่างชัดเจน

หลังจบเกม
โค้ชทั้ง 2 ทีม
ได้กล่าวความคิดความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังเกม

ซึ่งเป็นการกล่าวหลังเกม
ที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะในแง่การเป็นผู้นำ 🙂

-----------------------------------------------
#ข้อคิดจากการกล่าวของโค้ชสเปน

โค้ชสเปน หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้
กล่าวว่า
"เกมนี้เป็นการเล่นดีที่สุด
ตั้งแต่เขาคุมทีมมา
จริงๆ เขารู้สึกยอมรับนับถือในทีมอิตาลีมาก
เพียงแต่ว่าคืนนี้มันไม่ใช่วันของอิตาลี
และ สเปนเล่นกันได้ดีมาก
เขารู้สึกภูมิใจในทีมมากๆ"

❤ สิ่งที่ได้เรียนรู้การพูดที่เป็นผู้นำที่ดีของของโค้ชสเปน
คือ
🙂 1). แสดงการเคารพ (respect) ในตัวคู่แข่งขัน
ไม่แสดงการดูถูกเหยียบหยามคู่ต่อสู้
ยิ่งตนอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า

ดังที่เขากล่าวว่า
"...จริงๆ เขารู้สึกยอมรับนับถือในทีมอิตาลีมาก
เพียงแต่ว่าคืนนี้มันไม่ใช่วันของอิตาลี..."

การสื่อสารที่แสดงการเคารพผู้อื่น
การยกย่องให้เกียรติ
แม้กระทั่งกับคู่แข่งที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แย่กว่า

1. เป็นการเพิ่มบารมี (charisma) ในความเป็นผู้นำที่น่านับถือ ให้แก่ตัวผู้พูด
2. ช่วยให้ลูกทีมไม่ประมาททีมคู่แข่ง
และ ลดความเสี่ยงการหลงตนของทีม
เพราะ การรบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
ส่วนสำคัญมาจากการรู้เรา รู้เขา แบบตามจริง
และ ไม่ประมาทคู่แข่ง

🙂 2). แสดงความชื่นชมทีมตนเอง (Appreciation)

ดังที่เขากล่าวว่า
"เกมนี้จะไปเล่นดีที่สุด ตั้งแต่เขาคุมทีมมา
..... และ สเปนเล่นกันได้ดีมาก
เขารู้สึกภูมิใจในทีมมากๆ"

เมื่อลูกทีมทำได้ดี
การให้ความชื่นชมที่การกระทำ ความตั้งใจ
เป็นสิ่งที่สำคัญ

1. ช่วยสร้างขวัญกำลังใจ ช่วยให้ลูกทีมมี self-esteem ที่ดี
เป็นสิ่งที่ให้พลังกับลูกทีมอย่างมาก

2. เป็นการ feedback ที่มีประสิทธิภาพ
(effective feedback )

เพราะ 1 ใน การ effective feedback
คือ เมื่อลูกทีมทำได้ดี
ต้องมีการให้ feedback เชิงบวก (positive feedback) หรือ คำชื่นชม
ซึ่งการให้ positive feedback ในทางจิตวิทยาพบว่า
จะช่วยให้พฤติกรรมดีๆ เกิดขึ้นต่อไป
เพราะ ผู้ได้รับ positive feedback
จะรู้สึกดีกับพฤติกรรมนั้น
และ ช่วยเขารู้ตัวว่าพฤติกรรมใดที่ดี ที่ควรทำต่อ
จึงทำให้พฤติกรรมดีๆนั้นเกิดต่อไป

แต่ถ้าทำดี แล้วไม่มี positive feedback
พฤติกรรมอาจหายไป
เพราะ ผู้ทำไม่รู้ว่าดี
และ ไม่ได้รับอาหารใจ ไม่ได้รับความภูมิใจจากสิ่งที่ทำ

ซึ่งในทางจิตวิทยาพบว่า
ถ้าเราต้องการให้พฤติกรรมใดอยู่ต่อไป
การให้ reward (ให้รางวัล)
เช่น การให้คำชื่นชม
การให้การยอมรับ
การเห็นคุณค่าสิ่งที่เขาทำ ฯลฯ
เหล่านี้จะช่วยให้พฤติกรรมที่ดีเกิดต่อไป
ด้วยความรู้สึกดีๆ

แต่ถ้าพฤติกรรมดีนั้น ไม่ได้รับ reward
พฤติกรรมที่ดีนั้นอาจหายไป
ซึ่งน่าเสียดายมาก

----------------------------------------------------
#ข้อคิดจากการกล่าวของโค้ชอิตาลี

ในส่วนการกล่าวหลังเกมของโค้ชอิตาลี
ลูเซียโน สปัลเลตติ
ก็น่าสนใจเช่นกัน

โค้ชอิตาลีกล่าวว่า
"อิตาลีเปิดพื้นที่มากเกินไป
โดนสเปนฉีก จนปิดช่องไม่ทัน
.....เขายอมรับว่าสกอร์ ที่แพ้ สเปน 1-0
มันไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง
เพราะความเป็นจริง
สเปนสร้างปัญหาให้อิตาลี
เยอะกว่าสกอร์ที่ออกมาหลายเท่า"

❤ สิ่งที่ได้เรียนรู้การพูดที่เป็นผู้นำที่ดีของของโค้ชอิตาลี คือ

🙂 1). การยอมรับความสามารถของคู่แข่งขัน
โดย ไม่ defense หรือ ปกป้องตนเอง/ทีมตนมากเกินไป
รวมถึงไม่แก้ตัว (rationalization)

ดังที่เขากล่าวว่า
"...เขายอมรับว่าสกอร์ ที่แพ้ สเปน 1-0 นั้น
มันไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง
เพราะความเป็นจริง
สเปนสร้างปัญหาให้อิตาลี เยอะกว่าสกอร์ที่ออกมาหลายเท่า"

1. เป็นการเพิ่มบารมี (charisma)
ในความเป็นผู้นำที่น่านับถือ ให้แก่ตัวผู้พูด

2. เป็นก้าวแรกที่สำคัญ ของ การพัฒนา
เพราะ พลาดแล้ว
มัวแต่ปกป้องตนเอง หรือ แก้ตัวไปเรื่อยๆ
จะไม่เกิดเรียนรู้ใดๆ
เมื่อไม่เกิดการเรียนรู้
ย่อมไม่เกิดการแก้ไข
และ จะนำมาสู่การผิดพลาดซ้ำที่จุดเดิมได้

ซึ่งน่าเสียดาย กับศักยภาพที่มี
ที่น่าจะไปได้ดีกว่านี้
ถ้ารู้ตัวและนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขปรับปรุง

เพราะ ประตูแรกของการพัฒนาตน หรือ ทีม
เริ่มจากการการรู้ตนก่อน (insight)

🙂 2). การเห็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นของโค้ช
หรือ ผู้นำทีม
จะช่วยให้ลูกทีม
- ได้ตระหนัก
- ได้เรียนรู้
และ จะสามารถนำทีม ไปในทิศทางถูกต้อง
ไม่หลงทาง
เพราะ ถ้าโค้ช หรือ ผู้นำทีม ไม่เห็นข้อผิดพลาด
และ ไม่ได้สื่อสารให้ลูกทีมรับทราบข้อผิดพลาด

ทิศทางของทีม เกิดการหลงทางได้
ดังที่กล่าวในข้างต้น
โอกาสที่จะสำเร็จ
ปัจจัยหนึ่ง คือ การรู้เรา รู้เขา

ก้าวแรกที่สำคัญ คือ การรู้เรา
การเห็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึัน
คือ การรู้เรา
ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ ที่จะสร้างโอกาสพัฒนา

แต่ถ้าผู้นำไม่เห็นข้อผิดพลาด
การนำทีม
จะนำไปผิดทาง
คือ ทำผิดซ้ำๆที่เดิมไปเรื่อยๆ จากการไม่รู้ตัว

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข

------------------------------
เครดิตการรายงานข่าวฟุตบอลยูโร 24
จาก : https://www.youtube.com/watch?v=4wDu8Ru-uA8&t=609s

.
#บอลยูโร2024 #ยูโร2024 #Euro2024

----------------------------------
🙂 สามารถรับฟังบทความนี้ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ 🙂
https://youtu.be/WZA9dL9FJF4