วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

"เธอต้องเข้มแข็งพอที่จะร้องไห้ออกมา และ ขอความช่วยเหลือคนอื่น" มีความหมายความอย่างไร?โดย พญ.ทานตะวัน

 

 
#เรื่องของความเข้มแข็ง

"เธอต้องเข้มแข็งพอที่จะร้องไห้ออกมา และ ขอความช่วยเหลือคนอื่น"

คำพูดที่ตัวละครในเรื่องได้บอกกับตัวละครอีกตัวหนึ่ง
จากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Himizu (2011)

เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ Tsunami ใน ปี 2011
ณ ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นเหตุการณ์ Tsunami ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศญี่ปุ่นอย่างรุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

(บทความนี้ ไม่สปอยล์ส่วนสำคัญของภาพยนตร์ค่ะ)

-------------------------------------------
บางทีคนเรามักเข้าใจผิดว่า
คนที่เข้มแข็ง ต้องไม่ร้องไห้
คนที่เข้มแข็ง ต้องไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร

แต่ในความจริง
บางครั้ง การร้องไห้ออกมาได้
หมายถึง เรา"ยอมรับ" ว่า
เรากำลังเจ็บปวด เรากำลังเสียใจ เรากำลังทุกข์ใจ... ฯลฯ

ความหมายสำคัญ คือ เรา "ยอมรับ" ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจเรา

"การยอมรับ" ความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในใจ
โดยเฉพาะ ความรู้สึกด้านลบ
ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเรามักยอมรับได้ยาก

การยอมรับ ได้ คือ ความกล้าหาญ
คือ ความเข้มแข็ง ของจิตใจที่แท้จริง

การขอความช่วยเหลือคนอื่นก็เช่นกัน
เมื่อเราอยู่ในความจำเป็นที่ต้องการความช่วยเหลือ
การสามารถขอความช่วยเหลือคนอื่นได้
เป็นความกล้าหาญ

กล้าหาญที่จะ "ยอมรับ" สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
และ วางอัตตาตัวตนของตัวเองลง

ดังนั้น ในบางครั้ง
การร้องไห้ออกมา
และ การขอความช่วยเหลือคนอื่นได้
คือ ความเข้มแข็งที่แท้จริง มากกว่า การปฏิเสธ

เพราะ คือ ความกล้าหาญที่จะยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตัวเอง
และ สามารถวางทิฐิ และ อัตตาตัวตนลง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากอย่างยิ่งในบางคน

บทความโดย ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติตนเอง
#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#ยิ่งโตยิ่งสุข
----------------------------------------
หมายเหตุ : ภาพยนตร์ Himizu เรื่องนี้
มีฉาก และ เนื้อหาบางส่วนรุนแรง
สำหรับเด็ก ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำขณะชม

🙂 สามารถรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
🙂
https://youtu.be/LnnD7WGQbs4


วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

การไม่มีความสุขส่วนหนึ่งมาจาก “การไม่เห็นตัวเอง” ในมิติทางจิตใจ มีความหมายอย่างไร? โดย พญ.ทานตะวัน

 

 
สาเหตุของการที่ไม่มีความสุข

หลายครั้งเป็นจากปัจจัยภายนอก
และ อีกหลายครั้ง เป็นจากปัจจัยภายในตัวเราเอง

แต่ในบางคน
อาจไม่ค่อยได้พิจารณาว่า
สาเหตุของการไม่มีความสุขนั้น
มีส่วนเกิดจากตัวเราเองบ้างหรือไม่ ?

หลายคนเมื่อไม่มีความสุข
จึงมักคิดว่าเป็นจากคนอื่น 100%
จึงไปเพ่งโทษที่คนอื่นแบบ 100 %

แล้วหลายครั้งก็วนกับความทุกข์ไปไม่สิ้นสุด
แบบหาทางออกไม่ได้

ซึ่งในความเป็นจริง
ภายใต้การไม่มีความสุข
ส่วนหนึ่งมาจากคนอื่นทำเรา...
และ
ส่วนหนึ่งมาจากเราทำตัวเอง...

ซึ่งถ้ามีส่วนที่มาจากเรา
แต่เราไม่เห็น...
เราจะพลาดโอกาสในการบรรเทาทุกข์
ในส่วนที่อยู่ในมือเราไปอย่างน่าเสียดาย

การสามารถสังเกตตนเองเป็น
การหมั่นทบทวนตนเอง
การเห็น....ตนเองได้

เป็นทักษะสำคัญของการคลายทุกข์

#เห็นตนเองคืออะไร ?

🙂 เห็นวิธีคิด...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์
เพราะ วิธีคิดของเรา
ความเชื่อของเรา
คือ หลายครั้งเราทุกข์
เพราะ ความคิด/ความเชื่อของเราเอง
การรู้ตัวขึ้นมา
จังหวะที่ใจไม่ถูกความคิด/ความเชื่อครอบงำ
ใจจะมีความสว่าง และ เบาสบาย 🙂

🙂 เห็นวิธีใช้ชีวิต...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์
เพราะ วิธีใช้ชีวิตของเรา
แนวทางการดำเนินชีวิต
การจัดการปัญหาของเรา ที่ไม่เหมาะสม หลายครั้งรังแต่สร้างปัญหา
แต่เราไม่ค่อยรู้ตัว
เพราะไม่ทันสังเกตวิธีใช้ชีวิตของตนเอง

🙂 เห็นความคาดหวัง...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์ จากความคาดหวังของเราเอง
หลายครั้งเราผิดหวัง
เพราะ เราหวังผิด...
ผิดอะไร ?
ตอบ
ผิดจากธรรมชาติความเป็นจริง
เลยผิดหวังนั่นเอง

🙂 เห็นการแสดงออก...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์จากการแสดงออกของเรา
ที่ทำออกไปแล้ว
กลับสร้างปัญหามากกว่าเดิม
ถ้าเราไม่รู้ตัว
เราจะทำพฤติกรรมนั้นซ้ำๆออกไป ปัญหาเลยเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ
ไม่สิ้นสุด

🙂 เห็นการกระทำ...ของตนเอง
หลายครั้งเราทุกข์
เพราะ การกระทำของเรา
ชนิดที่ยิ่งทำยิ่งทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ
แต่ไม่รู้ตัว
เราจึงทำพฤติกรรมนี้ต่อไป
แล้วเรื่องแย่ๆ ก็เกิดขึ้นซ้ำๆ
จากการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเรา

🙂 เห็นความรู้สึก...ของตนเอง
หลายครั้งเราทุกข์
เพราะไม่เท่าทัน อารมณ์ ความรู้สึก ถูกอารมณ์อมใจ
จนใจทุกข์ เศร้า โกรธ ขุ่นเคืองแค้น สร้างดราม่ากับชีวิต
ถ้าไม่รู้ตัว หลายคนจะกลายเป็นทาสของอารมณ์ไปอย่างสิ้นเชิง
และ หลายครั้งอารมณ์ก็พาเราลงเหวไปอย่างน่าเสียดาย
ซึ่งถ้าเราเท่าทันอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นสักนิด
หลายครั้งเราจะหลุดออกจากการเป็นทาสอารมณ์ได้

ใจที่คลายออกจากอารมณ์ที่ครอบงำ
เป็นใจที่สดใส สว่างเบิกบาน 🙂

🙂 เห็นการยึดติด...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์ เพราะ การยึดติด
เช่น ยึดติดความเชื่อบางเรื่องมากๆ จนไม่ได้มองเห็นความเป็นจริงข้างหน้าว่าเป็นอย่างไร
ยึดติดคนสำคัญมากๆ จนทุกข์กับเขามากๆ
ยึดติดตำแหน่ง ความสำเร็จในหน้าที่การงานมากๆ
จนทุกข์หนักมากๆ
ถ้าวันหนึ่งไม่สมหวังในหน้าที่การงาน
ยึดติดความมีหน้ามีตามากๆ
จนทุกข์ เมื่อเราไม่ได้มีหน้ามีตาในแบบที่เราคาดหวัง
ทั้งที่ชีวิตทั้งหมด
ถ้ามองดีๆ ก็ไม่แย่
หรือ จริงๆ คือ ดีมากๆแล้ว ด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความยึดติด...มาก
เมื่อไม่ได้สิ่งที่ยึดติด
จึงทุกข์ใจมากๆ

🙂 เห็นความต้องการ...ของตนเอง
เห็นความอยาก...ของตนเอง
เพราะ หลายครั้งเราทุกข์
เพราะความอยากของตนเอง
ยิ่งถ้าอยากได้ ในสิ่งที่เป็นไปได้ยากในชีวิตจริง
ก็ยิ่งวนเวียนกับความทุกข์ใจไปมาไม่สิ้นสุด

🙂 เห็นความไม่อยาก...ของตนเอง
เพราะ หลายคนทุกข์
เพราะ ต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ
ไม่อยากเจอ แต่เลี่ยงไม่ได้
ถ้าไม่รู้ทัน
ใจจะพยายามดิ้นรนมากๆ
จนใจทุกข์ทรมานมากๆได้

❤ การเห็น...ตนเอง
จึงเป็นโอกาสอันดี
ในการคลายทุกข์

ความทุกข์จากคนอื่น
มีอยู่มากมายแล้ว

เราลองลดความทุกข์
ส่วนที่มาจากตัวเองลงบ้าง...

การที่เราไม่ทันเห็น...ตัวเอง
การที่เราไม่เท่าทันปัจจัยภายใน...ตนเอง
ที่ทำให้เราทุกข์

เราจึงทุกข์จากตัวเองซ้ำๆ แบบไม่รู้ตัว

เป็นการซ้ำเติมตนเองอย่างน่าเสียดาย
เป็นการตอกย้ำให้ตนเอง
พบความทุกข์ยิ่งขึ้นๆไปอีก

เมื่อใจทุกข์
กลับมาสังเกตตนเองว่า
ใจเรากำลังเป็นอย่างไร
ใจเรากำลังรู้สึกอะไร
ใจเรากำลังคิดถึงอะไรอยู่
ใจเรากำลังต้องการอะไร

และ เริ่มลงมือดูแลตนเอง
ถ้าปัญหาอยู่ที่การวางใจ
วางใจใหม่
ถ้าปัญหาอยู่ที่การกระทำ
ลองทำสิ่งใหม่

ความทุกข์จากคนอื่น เราอาจแก้ไขได้ หรือ แก้ไขไม่ได้

แต่ความทุกข์จากปัจจัยภายในเรา
เป็นสิ่งที่เราปรับเปลี่ยนได้เสมอ

ขอเพียงเราเริ่มรู้ทัน...
(self-awareness)

บทความโดย ผศ.พญ. ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

#เข้าใจธรรมชาติชีวิต
#เข้าใจธรรมชาติจิตใจ
#ยิ่งโตยิ่งสุข